บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2555 ด้วยกำไรสุทธิรวม 174 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิรวมจากการดำเนินการ 544 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ 786 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตของผลประกอบการในงบการเงินเฉพาะกิจการ 265% เมื่อเทียบกับการขาดทุน 476 ล้านบาทในปี 2554
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า "เมื่อปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะพลิกผลประกอบการให้มีกำไร และในปี 2555 เราได้ประสบความสำเร็จ และยังได้วางรากฐานที่สำคัญของการเติบโตต่อไปในอนาคต บริษัทฯ สามารถพลิกผลประกอบการให้ทำกำไรสุทธิรวมเป็นครั้งแรกได้ในรอบ 5 ปี และเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติให้เสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 253 ของกำไรสุทธิรวม หรือร้อยละ 56 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้อีกครั้งหนึ่ง”
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวมในปี 2555 ทั้งสิ้น 7,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 จากปี 2554 โดยรายได้หลักกว่าร้อยละ 86 ยังคงมาจากธุรกิจดาวเทียม โดยที่มีรายได้จากการให้บริการวงโคจรดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งสิ้น 6,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 จากปีก่อน อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 จากการเติบโตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและการให้บริการเสริมแก่ลูกค้าของดาวเทียมไทยคม 5 และรายได้จากการให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 จากการรับรู้รายได้ตลอดปีของการให้บริการแก่ลูกค้าตามสัญญาที่เกิดขึ้นในปี 2554 เช่น การให้บริการแก่ ซอฟท์แบงค์ เมียแซท และเอ็นบีเอ็น โค
“ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของการเติบโตในปี 2556 และปีต่อๆไป ธุรกิจดาวเทียมของไทยคมมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจดาวเทียมเป็นส่วนที่ทำรายได้หลักให้บริษัทฯ ถึงร้อยละ 86 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 6 ล่วงหน้าได้แล้วถึงร้อยละ 40 ทั้งนี้ จะเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วและชัดเจนขึ้นอีกหลังการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรในปีนี้ รวมถึงดาวเทียมไทยคม 7 ในปี 2557”
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา เอ็มโฟน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเชนนิงตัน ได้แจ้งขอปิดกิจการต่อหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องในประเทศกัมพูชาและขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอน หากได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไทยคมก็จะไม่ต้องแบกรับผลกระทบจากการขาดทุนของเอ็มโฟนต่อไปในปี 2556
ทั้งนี้ ในปี 2555 ที่ผ่านมา ไทยคมได้ประสบความสำเร็จที่สำคัญหลายประการ เช่น การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียม จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช), การประสบความสำเร็จในการรักษาวงโคจรดาวเทียมของประเทศไทยที่ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก, การบรรลุข้อตกลงกรอบข้อกำหนดการขายช่องสัญญาณไอพีสตาร์ในประเทศจีน (Framework Agreement) กับ ไชน่า เทเลคอม แซทเทลไลท์ (China Telecom Satellite) และ ซีเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น (Synertone Communication Corporation) ซึ่งปริมาณช่องสัญญาณไอพีสตาร์ในประเทศจีนคิดเป็นประมาณ 24% ของปริมาณช่องสัญญาณทั้งหมดของดาวเทียมไอพีสตาร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จจากการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร (End-to-end services) เช่นโปรเจคท์ e-cinema เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิค
นอกจากนี้ ในปี 2555 ไอพีสตาร์ ยังได้รับรางวัลจากสำนักงานกิจการโทรคมนาคมเขตคันโต กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร (Ministry of Internal Affairs and Communications: MIC) ของประเทศญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสวันคลื่นวิทยุแห่งชาติ (Radio Wave Day) ประจำปี 2555 จากผลงานของไอพีสตาร์ ในการเข้าสนับสนุนเป็นโครงข่ายสื่อสารในบริเวณพื้นที่ภัยพิบัติจากการเกิดแผ่นดินไหวทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นและจากพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 12 ในปี 2554 โดยไอพีสตาร์ถือเป็นบริษัทแรกในเอเชียที่ได้รับรางวัลดังกล่าวในวันคลื่นวิทยุแห่งชาติของ MIC ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 64 ปี ทั้งนี้ ไอพีสตาร์ยังได้รับการจัดอันดับจาก นอร์ทเธิร์น สกาย รีเสิร์ช (Northern Sky Research-NSR) ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้จัดทำการสำรวจข้อมูลของอุตสาหกรรมดาวเทียมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ว่าไอพีสตาร์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในบริการ High Through-put Satellite (HTS) ของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 24% ของปริมาณการใช้ช่องสัญญาณทั่วโลก