ฟิทช์คงอันดับเครดิตบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัทฯที่ ‘BBB(tha)’

ศุกร์ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๕:๒๐
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ที่ ‘BBB(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ ‘F3(tha)’ รวมถึงคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของ SF ที่ ‘BBB(tha)’

ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวสำหรับหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของ SF จำนวนเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2559 ที่ ‘BBB(tha)’ เงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้จะนำไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนรวมทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้จากธนาคารด้วย

อันดับเครดิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของ SF ในฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าขนาดกลางภายใต้แนวความคิดศูนย์การค้าชุมชน นอกจากนี้ด้วยจำนวนของโครงการศูนย์การค้าภายใต้การบริหารที่มีมาก ประกอบกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่มีมายาวนาน ทำให้ SF มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขันในธุรกิจเดียวกัน โดยคุณภาพของโครงการศูนย์การค้าภายใต้การบริหารของ SF จัดว่าอยู่ในระดับสูงด้วยอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Average Occupancy Rate) สูงกว่าร้อยละ 90 ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการศูนย์แรกในปี 2538

อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงกระแสเงินสดรับของ SF ที่มีความแน่นอนจากสัญญาเช่าระยะยาว SF มีสัญญาเช่าระยะยาวครอบคลุมพื้นที่ให้เช่าประมาณร้อยละ 65 ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด โดยรายได้จากสัญญาเช่าระยะยาวคิดเป็นประมาณร้อยละ 35 ของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการทั้งหมด โดยฐานผู้เช่าหลักของ SF ประกอบด้วยผู้เช่าที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีในตลาดและมีความหลากหลาย ผู้เช่ารายใหญ่ที่สุด 5 รายแรก ครอบคลุมพื้นที่ให้เช่าประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด โดยผู้เช่ารายใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน มีพื้นที่เช่าคิดเป็นร้อยละ 17 ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด นอกจากนี้ผู้เช่าหลักรายใหม่ในโครงการเมกา บางนา ซึ่งได้แก่ IKEA Store ซึ่งเป็นสาขาแห่งแรกในประเทศไทย ยังช่วยส่งเสริมฐานผู้เช่าหลักของ SF ให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม SF กำลังเผชิญกับปัญหาในการขึ้นอัตราค่าเช่าและการลดลงของอัตราการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าที่สำคัญบางศูนย์ เนื่องจากปริมาณการเข้าใช้บริการของลูกค้าที่ลดลง ซึ่งมีสาเหตุจากผู้เช่าหลักของศูนย์ดังกล่าวที่กำลังทยอยปิดสาขา รวมถึงสภาพการแข่งขันที่สูงในย่านดังกล่าว SF คาดว่าจะมีผู้เช่าหลักรายใหม่เข้ามาทดแทนได้ในปลายปี 2556 หรือต้นปี 2557 ดังนั้น SF จึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการเพิ่มอัตราการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจากศูนย์การค้าที่มีอยู่ใน 2 ปีข้างหน้านี้ แต่ทั้งนี้ รายได้จากศูนย์การค้าที่จะเปิดใหม่น่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ SF หากสามารถเปิดได้ตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม แม้จะประสบกับปัญหาดังกล่าวข้างต้น อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของศูนย์การค้าของ SF ก็น่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าร้อยละ 90 ในช่วงปี 2555-2558

อัตราส่วนหนี้สินของ SF ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted Net Debt to EBITDAR) น่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 5.6 เท่า ถึง 6.1 เท่าในช่วงปี 2556-2557 ในขณะที่อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สิน ต่อดอกเบี้ยจ่าย และค่าเช่า น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.3 เท่า ถึง 2.6 เท่าในปี 2556 — 2557 จากระดับ 2.0 เท่า ถึง 2.1 เท่าในปี 2555 ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า SF จะมุ่งเน้นการขยายจำนวนศูนย์การค้าของบริษัทฯ เนื่องจากโครงการเมกา บางนาได้เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ มีแผนการลงทุนประมาณ 850 ล้านบาท ถึง 1 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2556 — 2557 เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เช่าประมาณ 10,000 - 20,000 ตารางเมตรต่อปี

หนี้สินจำนวน 1.4 พันล้านบาทของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้จำนวน 1.2 พันล้านบาท จะครบกำหนดชำระภายใน 1 ปีนับจากสิ้นเดือนกันยายน 2555 โดย SF มีแผนจะชำระคืนหนี้สินดังกล่าวโดยการออกหุ้นกู้ใหม่ รวมถึงหุ้นกู้ชุดใหม่ที่ได้กล่าวถึงข้างต้น นอกจากนี้ สภาพคล่องของ SF ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวม 50.7 ล้านบาทและวงเงินกู้จากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกถอนจำนวน 767 ล้านบาท รวมถึง SF ยังมีทางเลือกที่จะขายโครงการที่มีอยู่แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ประกอบการรายอื่นเมื่อมีความจำเป็น

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยบวก:

- รายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

- อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สิน ต่อดอกเบี้ยจ่าย และค่าเช่า ในระดับที่สูงกว่า 3.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ:

- รายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

- อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สิน ต่อดอกเบี้ยจ่าย และค่าเช่า ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ