นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายของธนาคารในการขยายสินเชื่อไปยังภาคธุรกิจต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบกับปัจจุบันระบบบริการสุขภาพของประเทศมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจบริการทางการแพทย์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับวงการแพทย์และสาธารณสุขไทยในการก้าวสู่ AEC ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ธนาคารจึงได้ปรับเงื่อนไข สินเชื่ออิสระชีพเพื่อการแพทย์ ซึ่งให้กู้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ โดยเพิ่มวงเงินกู้สูงสุดถึง 10 ล้านบาท และลดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเหลือเพียงอัตรา MRR-0.5% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำสุดในระบบ
“ธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท กับแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ ที่มีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 1 ปี หรือเภสัชกร เทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด ที่มีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป ที่ใช้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างค้ำประกัน โดยคิดดอกเบี้ย ปีที่ 1 ในอัตรา MRR-0.5% ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป คิดอัตรา MRR ต่อปี ผ่อนชำระนาน 10 ปี ส่วนในกรณีใช้บุคคลค้ำประกัน ธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR+1.5% ต่อปี ผ่อนชำระนาน 5 ปี”
นายเวทย์ นุชเจริญ เปิดเผยต่อไปว่า นอกจากนี้ ธนาคารยังมีวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง MRR+3% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจทั่วไป ทั้งนี้ เงินกู้ดังกล่าวจะช่วยทำให้กลุ่มบุคลากรทางแพทย์สามารถนำไปใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการ เช่น ลงทุนด้านที่ดิน ซื้ออาคาร ก่อสร้าง ปรับปรุงตกแต่ง ต่อเติมสถานประกอบการ หรือซื้ออุปกรณ์เครื่องมือและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ผู้สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ที่ทุกสาขากว่า 1,100 แห่งทั่วประเทศ