นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี (ไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “เนื่องจากเราตระหนักถึงความต้องการและความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละท่าน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารของ บลจ.ยูโอบี จึงมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย จากมุมมองของบลจ.ยูโอบี กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ (UOBSDF) ถือได้ว่าเป็นกองทุนหุ้นไทยที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา จึงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ”
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานโยบายการลงทุนจะมีความยืดหยุ่นและหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการและระดับความเสี่ยงของนักลงทุนที่ยอมรับได้ หุ้นไทยก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว บลจ.ยูโอบี (ไทย) จึงจัดให้มี กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ดิวิเดนด์-โฟกัส อิควิตี้ ฟันด์ (UOBSDF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นปันผลไทย บริหารกองทุนด้วยกลยุทธ์คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีประวัติการจ่ายปันผลที่ดีสม่ำเสมอ จึงส่งผลให้ในปี 2555 ที่ผ่านมา UOBSDF ได้รับการจัดอันดับผลการดำเนินงานอยู่ในลำดับที่ 31* จาก 100 กองทุนหุ้นระดับโลก ด้วยอัตราผลตอบแทนกองทุน 66.38% นอกจากนั้นกองทุน UOBSDF ยังได้รับการจัดอันดับเป็นกองทุนอันดับหนึ่งในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ของปี 2555** จากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ
ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและธนาคาร เผชิญแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้ขายสุทธิกว่า 10,096 ล้านบาท หลังจากที่เหตุการณ์ในตลาดโลกยังไร้ปัจจัยใหม่ และราคาของทั้งสองกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นกว่า 10-15% จากเดือน ธ.ค. 55 สำหรับเหตุการณ์ภายในประเทศ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในเดือน ม.ค.56 ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของการบริโภคภายในประเทศและเศรษฐกิจไทย
บรรยากาศการลงทุนโดยรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีทิศทางที่ดี โดย บลจ.ยูโอบี มีมุมมองว่า “การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะเป็นโอกาสการลงทุนในปีนี้” โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวมทั้งเอเชียยังคงเป็นภูมิภาคสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ถึงแม้นักลงทุนยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนอยู่บ้าง แต่จากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กล่าวว่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องพิจารณาและติดตามต่อไปคือนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทย ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับต่ำและมีการคาดการณ์การเติบโตผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ปี 2556 ที่ 17% อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4-5% ซึ่งอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะลงทุน
นายวนา พูลผล ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณที่มีความสำคัญ การเลือกบริษัทจัดการกองทุนก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน บลจ.ยูโอบี (ไทย) มีความพร้อมทั้งในเรื่องความเชี่ยวชาญ ทีมผู้จัดการกองทุนที่ติดตามแสวงหาโอกาสการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลายพร้อมบริการให้คำปรึกษาการลงทุน รวมไปถึงบริการงานทะเบียนสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อเป็นการให้บริการแบบครบวงจร“
ท่านที่สนใจลงทุนเพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษาการลงทุน สามารถติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน-ลูกค้าสถาบัน
บลจ.ยูโอบี (ไทย) โทร. 0-2676-7100 ต่อ 133, 134 และ 139
ที่มา *สำนักข่าว Thomson Reuters Lipper
**หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 13 มกราคม 2556 ที่อ้างอิงตัวเลขจาก www.morningstarthailand.com
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
บลจ.ยูโอบี (ไทย) จำกัด คู่คิดแห่งความมั่งคั่ง
สอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ จิรชยา ลาภถาวรเกียรติ 02 6767100 ต่อ 163