1. ดำเนินการ Preventive Maintenance อุปกรณ์ต่างๆ ในระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรอง ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งจะดำเนินการในรอบนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม
2. ปรับอุปกรณ์ให้สามารถรองรับการใช้งานท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงขึ้นของฤดูร้อน อาทิ ผนังห้อง, แอร์ประหยัดพลังงาน, ฯลฯ เพื่อให้สามารถลดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าลง รวมถึงทำการ Preventive Maintenance อุปกรณ์ทำความเย็นซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าสูงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. สำรองเชื้อเพลิง เพื่อใช้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจำชุมสาย
4. พิจารณาจัดแบ่งพื้นที่ที่เป็น Strategic Area ของการใช้ระบบสื่อสาร เพื่อเตรียมแผนสำรองรองรับกรณีเกิดเหตุขัดข้อง โดยใช้รถสถานีฐานเคลื่อนที่ (Satellite Mobile Car) นำไปให้บริการ รวมถึงการจัดเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ จ่ายไฟให้กับสถานีฐานใน Strategic Area ด้วย
5. เปลี่ยน Battery ที่เริ่มเสื่อมสภาพที่สถานีฐานเพื่อให้สามารถสำรองไฟฟ้าไว้ใช้เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้
6. ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อประสานการบริหารการใช้กระแสไฟฟ้าอย่างสอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล
7. Stand by ทีมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทำการ monitor และเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ทันที”