นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE ผู้นำในธุรกิจการจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัตในประเทศไทย ภายใต้ แบรนด์ “เพชรยูบิลลี่” เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2555 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,226.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 165.87 ล้านบาท ซึ่งทั้งรายได้และกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มาเมื่อปี 2536 โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากการทำงานเชิงรุกและการดำเนินงานตามแผนงานด้านกลยุทธ์อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ JUBILE ได้แจ้งผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ mai ว่า ในปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,226.23 ล้านบาท เติบโต 38.20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ที่มีรายได้รวม 887.32 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 165.87 ล้านบาท เติบโต 26.44% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิ 131.18 ล้านบาท ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง จากผลการดำเนินงานงวดกรกฎาคมถึงธันวาคม 2555 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 เมษายน 2556 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2556 ขณะที่ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.55) บริษัทฯจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินปันผลจากผลการดำเนินงานทั้งปีอยู่ที่ 0.60 บาทต่อหุ้น
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตจนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มาจากเรามีทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง ประกอบกับบริษัทฯ มีนโยบายและกลยุทธ์การทำงานที่ชัดเจน โดยปี 2555 เราได้จัดตั้งฝ่ายสนับสนุนผลิตภัณฑ์ขึ้น เพื่อทำหน้าที่วางแผนและกำหนดช่วงเวลาในการจัดจำหน่ายสินค้า การกำหนดราคาขาย รวมถึงช่องทางการจำหน่ายสินค้าว่าแต่ละพื้นที่เหมาะกับสินค้าประเภทใด นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าให้อยู่ในระดับโลก และมีใบรับประกันคุณภาพสินค้าจากสถาบันต่างประเทศ ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ “เพชรยูบิลลี่” ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขยอดขายสาขาเดิมในปี 2555 ที่เติบโตกว่า 30% ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังรุกขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยปีที่ผ่านมา ยอดขายในสาขาใหม่มีอัตราการเติบโตประมาณ 8% ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2555 ประสบผลสำเร็จทั้งด้านรายได้และกำไร” นางสาวอัญรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาศักยภาพของพนักงานขายให้มีประสิทธิภาพและให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจกับลูกค้าสูงสุด โดยปี 2556 บริษัทฯจะนำกลยุทธ์ด้าน Customer Relationship Management หรือ CRM เข้ามาช่วยในการสื่อสารกับลูกค้า โดยจะจัดอบรมทีมพนักงานให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรกะรัตและเครื่องประดับเพชร เพื่อให้คำแนะนำการเลือกซื้อเพชรแก่ลูกค้าอย่างมืออาชีพและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ทั้งนี้ ในปี 2556 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท และมีแผนขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 12 สาขา จาก ปัจจุบันบริษัทฯ มีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 96 สาขา ขณะเดียวกัน ยัง ตั้งเป้าขยับอัตราการเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นอีก 22% จากปี 2555
“จากกลยุทธ์เชิงรุกที่มีหน่วยงานใหม่เข้ามาเสริม ทำให้เชื่อว่า การทำงานจะเดินตรงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่กำหนด ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้การบริหารต้นทุนในปีนี้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพื่อให้ผลการดำเนินงานบรรลุผลตามที่ได้วางไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกเพชรและเครื่องประดับเพชรในประเทศไทย โดยพัฒนาให้การซื้อขายเครื่องประดับเพชรมีความโปร่งใส ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้บริโภค และปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคให้เล็งเห็นถึงความประณีตของชิ้นงานมากขึ้น เพื่อให้อุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรในประเทศไทยทัดเทียมในระดับนานาชาติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน JUBILE กล่าว