กรมการแพทย์ประสบความสำเร็จในการผลิตนักกายภาพฯสามารถใช้เทคนิค Vojta รักษาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวแต่กำเนิดได้เป็นรุ่นแรกของไทย

พฤหัส ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๐:๔๓
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวหลังเป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการบำบัดรักษาเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคVojta ซึ่งจัดขึ้นที่ ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ จ.นนทบุรี ว่า “เทคนิคVojta” เป็นการนวดกดจุดเก่าแก่ของประเทศเยอรมนีที่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้น การสั่งงานระบบสมองจนทำให้ร่างกายสามารถควบคุมการทรงตัวและเคลื่อนไหวได้ ซึ่งประเทศไทยเริ่มรู้จักการบำบัดด้วยเทคนิคVojta เมื่อ 4 ปีก่อน จากกรณีของน้องซาย บุตรของคุณวอลเตอร์ลี ที่ได้รับการบำบัดด้วยเทคนิคVojta ร่วมกับการรับแขนขาเทียมจากเยอรมัน จนสามารถทรงตัวและใช้แขนขาเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรมการแพทย์เห็นว่าเทคนิคVojta มีประโยชน์และจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการทรงตัวของเด็กที่ผิดปกติในการเคลื่อนไหวเสริมจากเทคนิคที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จึงได้ทำบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กประเทศเยอรมนี ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กได้แนะนำให้กรมการแพทย์ติดต่อกับองค์กรวอยตาสากล จัดให้มีการอบรมการบำบัดด้วยเทคนิคโวยต้าขึ้นในไทยเป็นรุ่นแรก โดยแบ่งการเรียนออกเป็น 4 ช่วง ห่างกันช่วงละ 6 เดือน จะมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติใช้เวลาทั้งหมด 2 ปี มีผู้ที่ผ่านการอบรมทั้งแพทย์ และนักกายภาพบำบัดจากทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 25 คน นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จัดอบรมแก่แพทย์จำนวน 20 คน ให้สามารถวินิจฉัยความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหวด้วยเทคนิควอยตาได้เช่นกัน นับเป็นก้าวใหม่ของการพัฒนาเทคนิคการรักษาความพิการครั้งแรกในประเทศไทย ให้สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น จากเดิมที่เคยวินิจฉัยได้ในเด็กอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป จะสามารถเริ่มวินิจฉัยได้ในเด็กอายุแค่ 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ได้รับการบำบัดรักษาเร็วขึ้น

พญ.วิลาวัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าหลักการของเทคนิค Vojta จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวร่างกายแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการกระตุ้นด้วยมือ มีทั้งแรงกด และการยืดไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดการตอบสนอง และการเคลื่อนไหวของแขน ขา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดท่าเด็กให้อยู่ในท่าจำเพาะในท่าทางที่ถูกต้อง และการใช้มือส่งแรงกดไปตามจุดต่างๆ ในตำแหน่ง ทิศทาง และองศาที่ถูกต้อง กระตุ้นให้มีการประสานสัมพันธ์กันของกล้ามเนื้อก่อให้เกิดกระบวนการเคลื่อนไหว จึงมีผลต่อการทรงตัวของร่างกายและการเคลื่อนไหวของแขนขา เป็นการใส่ข้อมูลเพื่อให้สมองเรียนรู้รูปแบบวิธีการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง หากทำการกระตุ้นการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติแบบซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเส้นประสาทส่วนปลายสมอง และไขสันหลังขึ้นใหม่ได้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในช่วงขวบปีแรกของการเติบโต

นอกจากนี้เทคนิคVojta ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับผู้ที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เด็กสมองพิการ ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อนล่าง อัมพาตทั้งตัว ปลายประสาทถูกกดทับ และผู้ป่วยที่เกี่ยวกับระบบกระดูกกล้ามเนื้อ เช่น กระดูกสันหลังคด คอเอียง การสร้างอย่างผิดรูปของกระดูกและข้อต่อ ผู้ป่วยแขนขาขาด เด็กพิการแขนขาขาดหายแต่กำเนิด รวมถึงผู้ที่มีปัญหาการหายใจ การเคี้ยว การกลืนด้วย แต่การบำบัดรักษาด้วยเทคนิคVojta จะมีความแตกต่างการรักษาแบบกดจุด หรือการรักษาด้วยการบำบัดชนิดอื่น ๆ รวมถึงการนวดกดจุดแบบจีน เพราะใช้วิธีกระตุ้นเฉพาะจุด และเน้นกระตุ้นส่วนประสาทระบบการเคลื่อนไหวที่มีปัญหา ไม่เกี่ยวกับเส้นลมปราณ ซึ่งก่อนการรักษา แพทย์จะมีการประเมินและวิเคราะห์ก่อนปัญหาที่มีอยู่ว่าเกิดจากอะไร เพราะถ้ากดผิดจุดหรือผิดวิธี นอกจากการรักษาจะไม่ได้ผลแล้วอาจนำไปสู่อันตรายแก่ผู้ที่ได้รับการรักษาได้

ผู้ที่ผ่านการอบรมและได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีความพร้อมในการให้บริการเทคนิคVojta ในหน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และหน่วยงานอื่นๆ เช่น สวางคนิวาส สภากาชาดไทย, รพ.สมิติเวช, ม.ขอนแก่น, รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์, รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์, รพ.จุฬาลงกรณ์ , สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์, ม.สงขลานครินทร์, รพ.สำโรงการแพทย์ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ, ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ, สถาบันราชานุกูล และ รพ.รามาธิบดีฯลฯ นับเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยให้กับเด็กที่มีความผิดปกติในการเคลื่อนไหว ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆของประเทศด้วย

ติดต่อ:

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ โทร. 0 25914242 หรือ ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมการแพทย์ 0 25918254

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version