นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 อนุมัติแผนปรับโครงสร้างทุนของบริษัทฯ ประกอบด้วย การเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อต่อ 2 เพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 0.50 บาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 4,486.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์ 20 บาท) พร้อมทั้งการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 3 (KMC-W3) โดยไม่คิดมูลค่า กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์และผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในอัตรา 7 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 4 วอร์แรนต์ อัตราใช้สิทธิ์ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคา 0.60 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิ์ในการเพิ่มทุนและรับวอร์แรนต์ในวันที่ 18 มีนาคม 2556 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 12 เมษายน 2556
นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 5,000 ล้านหุ้น ซึ่งจะจัดสรรให้กับผู้ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรของบริษัทฯ ที่เป็นนักลงทุนระยะยาว และมีความรู้ความชำนาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเข้ามาช่วยเสริมการทำธุรกิจของ KMC พร้อมทั้งอนุมัติการลดพาร์เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสมจาก 20 บาทเหลือ 0.65 บาท เพื่อให้สามารถจ่ายปันผลกับผู้ถือหุ้นได้หากบริษัทฯมีผลการดำเนินงานเป็นกำไร
นายวิรัตน์ บอกด้วยว่า การเพิ่มทุนดังกล่าว จะทำให้บริษัทฯสามารถระดมทุนได้ประมาณ 2,100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่และมีศักยภาพซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมีแผนจะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 โครงการ ได้แก่ การเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทวิทูรธนากร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม Classe’ อยู่ในทำเลถนนพระราม 9 หน้า RCA มีโครงการอาคารสูง 8 ชั้น ที่สร้างเสร็จพร้อมขายจำนวน 4 ตึก พื้นที่ทั้งหมด 17,000 ตารางเมตร มีมูลค่าขายในทันทีในปีนี้ประมาณ 1,100 ล้านบาท โดยบริษัทฯเตรียมที่จะปรับแบรนด์เป็น The Kris Extra Rama9 และเปิดขายในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ และยังมีที่ดินเปล่า พร้อมใบอนุญาตสร้างอาคารสูง 8 ชั้นอีก 4 ตึก ที่บริษัทฯ เตรียมนำมาพัฒนาต่อ โดยจะเริ่มทยอยก่อสร้างในปีหน้า และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมขายในปี 2558 มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการลงทุนในโครงการที่เกาะล้าน ที่ต้องใช้เงินค่าซื้อสิทธิ์ประมาณ 290 ล้านบาท และค่าพัฒนาโครงการ ที่ต้องใช้เงินทุนในส่วนของบริษัทฯ อีกประมาณ 500 ล้านบาท รวมไปถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่หาดใหญ่ และภูเก็ต ที่ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท
"จากนี้ไป KMC พร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ หลังจากได้เงินเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเข้ามาสนับสนุน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นในผลการดำเนินงาน ที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โดยหลังจากที่เราได้เข้าเทคโอเวอร์โครงการ Classe’ และเตรียมปรับแบรนด์เป็น The Kris Extra Rama9 เปิดขายปลายเดือนมีนาคมนี้ จะทำให้รายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้ขยับขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท และเรายังมีอีกหลายโครงการ ที่จะทำให้ภาพของ KMC เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง และการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะสามารถรองรับการเติบโตได้ใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลการเพิ่มทุนอีก นอกจากนี้หลังจากลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมแล้ว บริษัทฯก็จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอนาคตอีกด้วย" นายวิรัตน์กล่าว