1. เรื่อง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2555
คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2555 ในปีบัญชี 2555 เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2555 ซึ่งการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ในภาพรวมมีการขยายตัวจากปี 2554 แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทั้งตลาดภายในประเทศและระหว่างประเทศ ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง ปริมาณการขนส่งสินค้าลดลงจากการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างมากของการค้าโลก ล้วนเป็นปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย
เมื่อปลายปี 2554 ทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดด้านราคาโดยการจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และผลกระทบจากการปิดซ่อมแซมทางวิ่งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือนมิถุนายน — กรกฎาคม 2555 ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ ที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ธุรกิจองค์กรเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด การจัดตั้งหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตำแหน่งทางการตลาดให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น การการปรับฝูงบินและพัฒนาเส้นทางบินโดยปรับตารางบินให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางในแต่ละช่วงเวลา (Seasonality) เพื่อให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะการแข่งขันได้รวดเร็วขึ้น การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่นั่งผู้โดยสารและปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ การป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน การสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงิน การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงานเฉพาะส่วนที่ไม่กระทบกับการให้บริการและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีระดับต้นทุนที่เหมาะสมในระยะยาวจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ด้านต่างๆ ดังกล่าว ทำให้ในปี 2555 บริษัทฯ มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) สูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเฉลี่ยร้อยละ 76.6 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งเฉลี่ยร้อยละ 70.4 และทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2555 กลับมามีกำไรอีกครั้งหลังจากประสบภาวะขาดทุนในปี 2554
ในปี 2555 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 213,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 19,188 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 โดยเป็นรายได้ส่วนของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด จำนวน 8,248 ล้านบาท และกำไรจากการซื้อธุรกิจบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด จำนวน 1,584 ล้านบาท ในส่วนของรายได้รวมเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้น 10,042 ล้านบาท จากรายได้จากการขายหรือการให้บริการ (Operating Revenue) ที่เพิ่มขึ้น 10,366 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 สาเหตุหลักเนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 209,639 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 9,808 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.9 โดยเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด จำนวน 6,869 ล้านบาท ในส่วนค่าใช้จ่ายเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้น 2,685 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.3 เป็นผลมาจากค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร และการจ่ายเงินรางวัลประจำปี ขณะที่ค่าซ่อมแซมและค่าบำรุงอากาศยาน และค่าเช่าเครื่องบินลดลงจากปีก่อน
ในปี 2555 บริษัทฯ มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 3,891 ล้านบาท โดยในปี 2554 บริษัทฯ ขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 5,489 ล้านบาท นอกจากนั้น ในปี 2555 บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 3,213 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2554 ที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2,428 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานปี 2555 (1 มกราคม — 31 ธันวาคม 2555) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 6,510 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 6,229 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.85 บาท เปรียบเทียบกับปี 2554 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 10,197 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 4.67 บาทณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 304,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2554 จำนวน 30,140 ล้านบาทหนี้สินรวมทั้งสิ้น 234,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,269 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 69,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,871 ล้านบาท
2. เรื่อง ผลการดำเนินงานด้านการขนส่ง ประจำเดือนมกราคม 2556
คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนมกราคม 2556 อยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีจำนวนผู้โดยสาร1.89 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน จำนวน 0.14 ล้านคน หรือ ร้อยละ 8.1 มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger — Kilometer : RPK) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.6 ในขณะที่ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer : ASK) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.6 ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยร้อยละ 78.8สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ย ร้อยละ 77.3 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในเส้นทางภูมิภาคจาก ร้อยละ 69.6 เป็น ร้อยละ 74.7 สำหรับหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร ( Cabin Factor ) เฉลี่ยร้อยละ 84.8 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ร้อยละ 79.4 และเที่ยวบินภายในประเทศ ร้อยละ 87.0
สำหรับการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยังคงมีผลจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ความต้องการขนส่งสินค้าลดลง เป็นผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers : RFTK) ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.0
ในขณะที่ปริมาณการผลิต (Available Dead Load Ton-Kilometers : ADTK) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.9 ส่งผลให้มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) เฉลี่ย ร้อยละ 47.4 ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ยร้อยละ 49.7
3. เรื่องการรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรุ่นใหม่ ประจำปี 2556
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรุ่นใหม่ ประจำปี 2556 จำนวน 247 อัตรา ซึ่งเกิดจากการขาดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสะสมในปี 2555 และเป็นไปตามแผนการรองรับเครื่องบินใหม่ การปลดระวางเครื่องบินเก่า และแผนการใช้งานของเครื่องบินในปี 2556 สำหรับกระบวนการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือน มีนาคม 2556 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ www.thaiairways.com
4. เรื่องการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ จัดการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ในวันที่ 24 เมษายน 2556 เวลา 13.30 น. ณ ห้องมิราเคิล แกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต หลักสี่ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ในวันที่ 15 มีนาคม 2556 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 18 มีนาคม 2556