นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ปีที่ผ่านมา โออิชิยังคงประสบปัญหาเรื่องกำลังการผลิต แต่บริษัทฯ ก็สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย มีรายได้รวมในปี 2555 เพิ่มขึ้น 22% คิดเป็น 11,634 ล้านบาท โดยสายงานธุรกิจเครื่องดื่มเติบโต 18% ขณะที่สายงานธุรกิจอาหารเติบโต 29% กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 654 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียโอกาสในการขาย คิดเป็นมูลค่า 650 ล้านบาท รวมถึงการสร้างครัวกลางชั่วคราวขึ้นมาใหม่ด้วยงบลงทุน 60 ล้านบาท พร้อมๆ ไปกับการก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่ นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ขนมขบเคี้ยว สาหร่ายทอดกรอบ “โอโนริ” ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา”
ในปี 2556 โออิชิ คาดการณ์การเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น 32% คิดเป็น 15, 300 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะมุ่งสร้างการเติบโตด้วยกิจกรรมทางการตลาดที่โดดเด่นและหลากหลาย เพื่อการขยายตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับสายงานธุรกิจเครื่องดื่ม ได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 33% โดยในฐานะผู้นำตลาด นอกจากจะมุ่งขยายตลาดไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกโอกาสในการดื่ม เพื่อขับเคลื่อนตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ “โออิชิ ชาคูลล์ซ่า” ชาเขียวผสมโซดา ทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับผู้บริโภคในตลาดเครื่องดื่มอัดลม รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ โออิชิ กรีนที ขนาด 380 มล. จำหน่ายในราคา 15 บาท โออิชิ ฟรุตโตะ ใหม่ ขนาด 350 มล. จำหน่ายในราคา 12 บาท และโออิชิ ขวดแก้ว ขนาด 400 มล. จำหน่ายในราคา 12 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่จะช่วยสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2556
เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดโรงงานแห่งใหม่ในอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ด้วยงบลงทุนมากถึง 1,100 ล้านบาท โดยจะเริ่มเดินสายการผลิตในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ทั้งนี้ โรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิต 15 ล้านขวดต่อเดือน พร้อมจัดสรรงบประมาณ 1,400 ล้านบาท สำหรับการโฆษณาและส่งเสริมการขายตลอดปี คิดเป็น 9.6% ของยอดขายโดยรวมในปี 2556 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคอย่างต่อเนื่อง โออิชิ ยังได้ส่งโปรโมชั่นสุดร้อนแรงรับร้อน “รหัสโออิชิ ลุ้นรวยทุกชั่วโมง” ที่ได้รับการพัฒนาจากความต้องการของผู้บริโภคให้ได้รับความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ง่ายๆ เพียงส่งรหัสใต้ฝาหรือในกล่อง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ให้ได้ลุ้นรับทองคำทุกชั่วโมง ทุกวัน และทุกเดือน โดยมีจำนวนรางวัลมากถึง 2,466 รางวัล รวมมูลค่าสูงถึง 90 ล้านบาท
ด้านสายงานธุรกิจอาหาร โออิชิคาดว่าจะสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น 30% ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยวางแผนเปิดร้านอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอีก 50 สาขา มุ่งเน้นที่แบรนด์ “ชาบูชิ” “นิกุยะ” รวมทั้ง “คาคาชิ” ซึ่งเป็นร้านอาหารประเภทจานด่วน ที่เสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยมในราคาประหยัด นอกจากนี้ ยังพุ่งเป้าไปที่การขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2556 รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่เย็น และอาหารแช่แข็งและเพื่อให้สอดรับกับแผนการขยายธุรกิจอาหาร โออิชิได้ลงทุน 545 ล้านบาท ในการสร้างครัวกลางแห่งใหม่ ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะพร้อมเปิดใช้งานได้ในเดือนตุลาคม 2556 โดยปัจจุบัน โออิชิ มีร้านอาหารในเครือรวมทั้งหมด 154 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตามแผนธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ โออิชิจะมีร้านอาหารครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวนรวม 275 แห่ง ภายในปี 2559
“แม้ว่าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง มีคู่แข่งจำนวนมาก และสินค้าที่สามารถทดแทนกันได้ง่าย แต่เรามั่นใจว่าบริษัทฯ จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และปี 2556 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับโออิชิอย่างแน่นอน” นายแมทธิวกล่าวสรุป