- ธ.ค. ๒๕๖๗ การประชุมเสนอผลงานต่อเวทีสาธารณะ โครงการศึกษาปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย เพื่อการบริหารจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ร่วมกับมูลนิธิศูนย์กฎหมายสิ่งแวดล้อม - ประเทศไทย
- ธ.ค. ๒๕๖๗ “น้ำบาดาล” เปิดจุดจ่ายน้ำ 89 แห่ง ทั่วประเทศ หนุนโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ
- ธ.ค. ๔๒๒๖ พิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “การสำรวจประเมินศักยภาพและจัดทำแผนที่แหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้”
นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “ชาวสุรินทร์และบุรีรัมย์ ผวาขุดสำรวจปิโตรเลียม หวั่นกระทบน้ำบาดาล - พื้นที่เกษตรนาข้าว” นั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบว่า การขุดสำรวจปิโตรเลียมครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ได้แก่ บ้านหนองไทร หมู่ 8 ตำบลหนองขมาร อำเภอคูเมือง และบ้านหนองสรวง หมู่ 4 ตำบลสระบัว อำเภอแคนดง โดยพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการพัฒนาน้ำบาดาลจากชั้นตะกอนกรวดทรายที่ระดับความลึก ประมาณ 80 - 90 และ 120 - 140 เมตร โดยมีชั้นดินเหนียวปิดทับทั้งบนและล่างของตะกอนกรวดทราย ทำให้ชั้นตะกอนกรวดทรายเป็นชั้นหินอุ้มน้ำแบบภายใต้แรงดัน และเมื่อระดับแรงดันของน้ำสูงกว่าระดับภูมิประเทศ จึงเกิดเป็นบ่อน้ำบาดาลพุ ซึ่งไม่ต้องใช้เครื่องสูบในการ นำน้ำมาใช้ ในขณะที่การสำรวจปิโตรเลียมเจาะสำรวจที่ระดับความลึกประมาณ 3,000 - 4,000 เมตร ซึ่งเป็นชั้นหินคนละชั้นกับบ่อน้ำบาดาลพุ และในระหว่างที่มีการเจาะสำรวจน้ำมันจะมีการใส่ท่อกันพังซึ่งสามารถป้องกันการปนเปื้อนของน้ำโคลน ที่ใช้ในการเจาะไม่ให้ไหลซึมปะปนลงสู่ชั้นน้ำบาดาลพุได้ ดังนั้น การขุดสำรวจปิโตรเลียมในบริเวณจังหวัดสุรินทร์ - บุรีรัมย์ จึงไม่มีผลกระทบต่อแหล่งน้ำบาดาลพุของพื้นที่ดังกล่าว และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวคลายความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อระบบน้ำใต้ดินว่าจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น