นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายการจัดการลงทุน เปิดเผยว่า โอกาสการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชียยังมีอยู่ต่อเนื่อง เพราะแนวโน้มขนาดของตลาดตราสารหนี้เอเชียยังมีทิศทางการเติบโต แม้ว่าตราสารหนี้ภาคเอกชนในเอเชียจะมีระดับราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลกกระแสเงินลงทุนไหลเข้าในเอเชียในสภาวะการณ์ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และจากขนาดของตลาดตราสารหนี้เอกชนที่เติบโต กอปรกับระดับราคามีลักษณะกระจายตัว จึงมองว่าจะเป็นโอกาสที่ดีเพื่อเลือกลงทุนในตราสารที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดี นอกจากนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของภูมิภาคเอเชียที่แข็งแกร่งและมีระดับราคาน่าสนใจเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ในภาคตะวันตก จึงคาดว่าจะมีความต้องการในตลาดตราสารหนี้เอเชียสูง ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่สามารถเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากกำไรในมูลค่าตลาดตราสารหนี้ได้
ในส่วนของทิศทางการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทย ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างนิ่งหลังจากที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบตลาด อีกทั้งนักลงทุนยังจับตาดูผลกระทบจากการปรับลดงบประมาณในสหรัฐฯ รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลี ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP Growth ปี 2556 จากเดิมที่ 4.9% เป็นไม่น้อยกว่า 5% ส่วนค่าเงินบาทในเดือน ก.พ. แกว่งตัวในกรอบ 29.7-29.9 ดังนั้น บริษัทฯมีมุมมองว่า ทางคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) อาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป (3 เม.ย. 56)
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวว่า ในวันที่ 11 มีนาคม บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ฟิกซ์อินคัม (ASP-STAR) เป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่เปิดขายและรับซื้อคืนปีละ 1 ครั้ง โดยปัจจุบันกองทุนเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอเชีย ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และจะได้รับผลดีจากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้เอเชีย ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A- ขึ้นไป โดยจะกระจายการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชีย และเน้นลงทุนในผู้ออกตราสารจากประเทศเกาหลีใต้มากที่สุด รองมาคือ จีน และมาเลเซีย ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป (Dynamic hedging) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนและสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ และในวันที่ 13 มีนาคม บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 1 (ASP-ACFIXED1) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไทย ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เงินฝากและตั๋วแลกเงินในประเทศ ผลตอบแทนประมาณ 2.90% ต่อปี**
ทั้งนี้ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556* กองทุน ASP-STAR มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 4.99%ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (US Cash Indices LIBOR Total Return 6 months ปรับด้วย gain/loss ของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน) อยู่ที่ 0.71% ต่อปี และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553** กองทุน ASP-STAR สามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 4.46% ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน อยู่ที่ 0.59% ต่อปี
*ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ฟิกซ์อินคัม(ASP-STAR)
ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (%)
3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี ตั้งแต่จัดตั้ง
ASP-STAR 2.29 4.39 4.99 - 4.46
เกณฑ์มาตรฐาน 0.54 0.65 0.71 0.58 0.59
เกณฑ์มาตรฐาน :US Cash Indices LIBOR Total Return 6 months ปรับด้วย gain/loss ของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานของกองทุนจัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานที่กำหนดโดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
**ผลการดําเนินงานย้อนหลังตั้งแต?วันจัดตั้งกองทุน เริ่มตั้งแต?วันที่ ASP-STAR เปลี่ยนนโยบายการลงทุนและประเภทกองทุนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553 (กองทุนจัดตั้งวันที่ 11 มิถุนายน 2551)
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 / สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์
มุกพิม จุลพงศธร (มุก) / ธันย์ชนก อนุศาสตร์ (ปัด) โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 หรือ 3321
อีเมล์: [email protected] / [email protected]