นายสรัญ รังคสิริ ประธานกรรมการจัดการแข่งขันกอล์ฟ“พระเกี้ยวทองคำ” ครั้งที่ 7กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานกอล์ฟประเพณีครั้งนี้ว่า “เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟมือสมัครเล่นรายการนี้ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานของกีฬากอล์ฟในระดับสากลทางคณะผู้จัดการแข่งขันได้มีการเตรียมความพร้อมของการแข่งขันในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรผู้ควบคุมกฎ กติกาการแข่งขันโปรแกรมอัพเดตผลคะแนนแบบReal Timeเสมือนท่านเดินชมการแข่งขันรวมทั้งสนามแข่งขันที่ได้ระดับมาตรฐานของมืออาชีพโดยเราเลือกสนามกอล์ฟลำลูกกาคันทรีคลับ จ.ปทุมธานีเหมือนเช่นในการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมสำหรับ 12 ทีมที่เข้าแข่งขัน เรายังได้จัดให้มี“วันทดสอบสนาม”โดยใช้คอร์สที่ใช้ในการแข่งขันเสมือนการแข่งขันจริงทุกประการในวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2556ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกทีมได้ศึกษา วางแผนเตรียมกลยุทธ์ในวันแข่งขันจริงระหว่างวันที่ 16 - 17 มีนาคม 2556ที่จะถึงนี้”
“สำหรับในเรื่องถ้วยรางวัลของทีมที่ชนะเลิศนั้น ทางสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานถ้วยรางวัล “กอล์ฟพระเกี้ยวทองคำ”ตามชื่อสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเหมือนเช่นการแข่งขันในทุกครั้งที่ผ่านมาอีกทั้งทางคณะผู้จัดการแข่งขันได้มีการกราบเรียนเชิญฯพณฯองคมนตรีพล.อ.อ. กำธน สินธวานนท์มาเป็นประธานในพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานซึ่งได้รับความกรุณาจาก ฯพณฯองคมนตรีตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กล่าวได้ว่านอกเหนือจากชัยชนะแล้ว ยังนับเป็นความภาคภูมิใจอันสูงสุดของทีมผู้เล่นที่ชนะเลิศการแข่งขันอีกด้วย”
นายวิชิต บัณฑุวงศ์ผู้อำนวยการการแข่งขันฯ กล่าวถึงความพร้อมของ.12 ทีม และกฎ กติกาที่ใช้ในการแข่งขันในรายการนี้ว่า“การแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” ครั้งที่ 7เป็นการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นประเภททีม มีทีมเข้าแข่งขันทั้งสิ้น12 ทีม ได้แก่ ทีมสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าสถาบันในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยทีมชนะเลิศการแข่งขันกอล์ฟ “พระเกี้ยวทองคำ” ครั้งที่ 6ทีมชมรมกอล์ฟสมาคมชาวญี่ปุ่น(Japanese Association Golf Club)ทีมราชกรีฑาสโมสรทีมราชนาวีทีมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทีมสมาคมธรรมศาสตร์ทีมสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทีมสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมป์ ทีมบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทีมทหารอากาศทีมจามจุรีและทีมราชวิทย์ซึ่งกล่าวได้ว่าในขณะนี้แต่ละทีมล้วนมีความพร้อมทั้งในด้านร่างกาย และทักษะการเล่นกันเกือบ 100% เนื่องจากแต่ละทีมมีการฝึกซ้อมกันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งในด้านกำลังใจของผู้เล่นแต่ละคนในทีมก็มีกำลังใจที่เต็มเปี่ยม จึงกล่าวได้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้น่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุก เข้มข้น และเป็นการแข่งขันที่น่าจับตามอง และน่ารอคอยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟทุกท่านโดยสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด”
“สำหรับเรื่องกฎ กติกาที่ใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ แต่ละทีมจะส่งนักกอล์ฟ 12 คน แข่งขัน 2 วัน ลงแข่งขันครั้งละ 8 คน วันแรกเป็นการแข่งขันแบบคู่ โฟร์ซัม และโฟร์บอล อย่างละ 9 หลุม วันที่ 2 แข่งแบบบุคคล นับคะแนนแบบสโตรคเพลย์ โดยคิดแต้มรวมจากนักกอล์ฟทั้ง 8 คน แต้มของนักกอล์ฟคิดจากกรอสสกอร์คือไม่นำแต้มต่อมาคิดผลคะแนน รวมแต้มของทั้งสองวันเป็นการตัดสินแพ้ชนะ ซึ่งกฎ กติกานี้นับเป็นกฎกติกาที่ได้มาตรฐาน และได้รับการยอมรับในการแข่งขันกอล์ฟระดับสากลด้วย และเหมือนเช่นในทุกครั้งของการแข่งขันที่ผ่านมา ก่อนการแข่งขันเราจะมีการจับฉลากเพื่อประกาศผลจับคู่ 12 ทีมที่เข้าแข่งขัน และเวลาที — ออฟของแต่ละคู่ ”
นายสรัญ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน ทางคณะผู้จัดการแข่งขันจะนำรายได้ส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยต่อไป อีกทั้งในปีนี้ทาง สนจ. ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษครั้งแรกกับการรวมน้ำใจครั้งใหญ่ในโครงการรับบริจาคอุปกรณ์กีฬาทุกประเภทจากประชาชนทั่วไป เพื่อสานฝันการเล่นกีฬาของเด็กไทยที่ด้อยโอกาส ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มีผู้มาบริจาคแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เรายังคงเปิดรับบริจาคอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2556 ณ จุดบริจาค 20 แห่งทั่วกรุงเทพ ได้แก่ หน่วยงานที่ร่วมแข่งขัน 12 แห่ง/ สนามกอล์ฟ ลำลูกกาคันทรีคลับ /สถานีบริการ ปตท. และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟชั้นนำ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.chulagolf.com โดยในวันประกาศผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ จะมีการเชิญโรงเรียนในกลุ่มเป้าหมายมารับมอบอุปกรณ์กีฬาที่ได้จากการบริจาคทั้งหมด เพื่อให้แต่ละโรงเรียนนำไปพัฒนาและสานต่อโอกาสในด้านกีฬาของเด็กๆต่อไปในอนาคต”
ด้านนางพุทธชาด มุกดาประกรผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันฯ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่มีส่วนส่งเสริมกีฬากอล์ฟในระดับสมัครเล่นให้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันกอล์ฟ“พระเกี้ยวทองคำ”ที่นับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นประเภททีมที่ได้มาตรฐานระดับสากลอีกทั้งโครงการรับบริจาคอุปกรณ์กีฬาและสื่อเพื่อการศึกษา เพื่อต่อยอดอนาคตทางการกีฬาและการศึกษานั้น ก็นับเป็นอีกกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมเยาวชนและชุมชนซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลายๆ ภารกิจด้านสังคมที่ ปตท. ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โทร. 02 537 2165