ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ ฟิลิป คอตเลอร์ กูรูการตลาดระดับโลกนำเทรนด์โลกสู่ “การตลาดเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ศุกร์ ๐๘ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๖:๓๙
ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือเป็นพันธมิตรกับ ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ ปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลก และ World Marketing Summit Inc. (WMS) เพื่อปลุกกระแสการตลาดยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “Creating a Better World through Marketing” ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้องค์กรธุรกิจทั่วโลกก้าวสู่การตลาดเพื่อความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยคอตเลอร์จะหยิบโมเดลธุรกิจ “กระดาษจากคันนาของดั๊บเบิ้ล เอ” ไปเป็นต้นแบบการทำการตลาดเพื่อความยั่งยืนในทุกเวทีของ WMS ทั่วโลก

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พิธีความร่วมมือระหว่าง ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ กูรูการตลาดระดับโลก World Marketing Summit Inc. (WMS) และดั๊บเบิ้ล เอ ในวันนี้ มีเป้าหมายเพื่อต้องการเปลี่ยนโฉมแนวความคิดทางการตลาดในปัจจุบัน ให้เป็นการตลาดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยความยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Creating a Better World through Marketing” หรือ การสร้างโลกที่ดีขึ้นด้วยการตลาดโดยผลักดันให้องค์กรต่าง ๆ หันมาใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อร่วมกันลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาความยากจน และปัญหามลภาวะต่างๆ ที่เกิดจากการขยายตัวของธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่ง ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ มีความตั้งใจที่จะสื่อสารแนวความคิดการตลาดใหม่นี้ ให้ธุรกิจสามารถอยู่ร่วมกับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับเลือกให้เป็นองค์กรความร่วมมือของโครงการนี้ เนื่องจากรู้สึกประทับใจในโมเดลธุรกิจกระดาษจากคันนาของดั๊บเบิ้ล เอ ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวคิด “Creating a Better World through Marketing” โดยโมเดลกระดาษจากคันนาของดั๊บเบิ้ล เอ ถือเป็นตัวอย่างการตลาดเพื่อสังคมในระดับโลก ที่คำนึงถึงคนในระดับรากหญ้า สร้างให้เกิดอาชีพเสริมในการปลูกต้นกระดาษบนคันนากับเกษตรกรนับล้านราย ทำให้คันนาซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าถูกสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับสังคมในชนบท เกิดการผลิตกระดาษที่ยั่งยืนด้วยวัตถุดิบที่ไม่ต้องทำลายป่าไม้จากธรรมชาติ ประกอบกับแนวคิด “ของเหลือใช้ ไม่ถูกทิ้งให้ไร้ค่า” ที่ทำให้ของเหลือจากการผลิตของ ดั๊บเบิ้ล เอ กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าชีวมวล ที่เพียงพอต่อการผลิต และเพียงพอต่อการใช้ของชุมชนอีก 4 แสนครัวเรือน กระดาษจากคันนาของดั๊บเบิ้ล เอ จึงเป็นกลไกในการปลูกต้นไม้ที่มีคนช่วยกันดูแลต้นไม้อย่างยั่งยืน เป็นแนวทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่โลก สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรที่ยากจน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคันนาที่ว่างเปล่า และของเหลือจากการผลิต เป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้ง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนในระดับโลก

Paper from KHAN-NA ของดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างการตลาดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งในเวทีงานประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติ และเวทีงานประชุมในระดับประเทศ ที่ WMS มีแผนงานจะจัดขึ้น พร้อมๆ กับการนำเสนอแนวคิดใหม่ของฟิลิป คอตเลอร์ในเรื่องการตลาดเพื่อสังคม เพื่อปลุกเร้าแนวคิดการตลาดเพื่อสังคมให้องค์กรธุรกิจทั่วโลก นำทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติที่เป็นจริง เนื่องจากโมเดล Paper from KHAN-NA ของดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวอย่างการตลาดอย่างยั่งยืนที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน ในการสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยปีละ 5,000 ล้านบาท โดยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทุก ๆ 1 รีม จะช่วยลดโลกร้อนด้วยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ 12.5 กิโลกรัม สร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับแนวคิด “Creating a Better World through Marketing” หรือการสร้างโลกให้ดีขึ้นด้วยการตลาด ได้พัฒนามาจาก เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ 8 ประการของสหประชาชาติ หรือ United Nations’ 8 Millennium Development Goals (MDGs) ที่มีเป้าหมายการพัฒนา เพื่อขจัดความยากจนในมิติต่างๆ และก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย WMS จะจัดงานประชุมใหญ่ทางวิชาการด้านการตลาดในระดับนานาชาติปีละ 1 ครั้ง หมุนเวียนไปในแต่ละประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งจัดงานประชุมในระดับประเทศในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก เพื่อรณรงค์ให้องค์กรต่างๆ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางการตลาดรูปแบบใหม่

ทางด้านนายชาญวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า องค์กรธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตไม่สามารถวัดความสำเร็จด้วยยอดขายและการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเท่านั้น แต่จะต้องร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของชาวโลก และดั๊บเบิ้ล เอ ยังเชื่อมั่นว่าทุกๆ องค์กรมีความตั้งใจที่จะสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้น แนวคิดเรื่อง “Creating a Better World through Marketing” จึงเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้ และหากทุกองค์กรนำหลักการนี้ไปใช้ ก็จะเป็นการช่วยผลักดันให้สังคมโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในเมืองที่ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ และ WMS กำลังพิจารณาให้เป็นสถานที่จัดงานประชุมระดับนานาชาติ หรือ “World Marketing Summit” ครั้งที่ 3 ในปี 2014 ซึ่งจะมีผู้นำทางความคิดด้านการตลาด จากองค์กรต่างๆและสถาบันการศึกษาทั่วโลก มารวมตัวกัน เพื่อร่วมผลักดันให้สังคมโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ประชาสัมพันธ์

บริษัท คิธแอนด์คินฯจำกัด

คุณวรวิทย์ 02-663-3226 ต่อ 64

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ