KIAT มั่นใจผลงานปี 56 สุดแจ่มหลังปรับกลยุทธ์รับงานเพิ่ม หวังรายได้ปีนี้โตอย่างน้อย 15% โชว์ปี 55ปันผลอีก 0.25 บ./หุ้น

จันทร์ ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๑:๔๔
KIAT มั่นใจผลงานปี 56 เติบโตกว่าปี 55 อย่างแน่นอน เหตุแค่ต้นปีมียอดขายเพิ่มแล้ว 15% หวังดันรายได้ทั้งปีโต 15% จากปีก่อน หลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจ พร้อมลุยธุรกิจขนส่งพ่วงสินค้ามากขึ้น หลังประเมินว่ามี Margin สูง หนุนให้บริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตอย่างยั่งยืนได้ “เกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์” MD คนเก่ง มั่นใจไม่ทำให้ นลท. ผิดหวัง แม้ผลงานปี 55ที่ผ่านมาปรับลดลง แต่เชื่อว่าปีที่ไม่ดีของบริษัทฯ ได้ผ่านไปแล้ว พร้อมเอาใจผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผลทั้งปีคิดเป็น 80% ของกำไรสุทธิครึ่งปีหลังปันผลเพิ่มอีก 0.25 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.50 บ./หุ้น

นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือKIATผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์ และเชื้อเพลิงพลังงาน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2556 มีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปี 2555 ที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศดี บริษัทฯ มีลูกค้ารายใหม่เพิ่มมากขึ้น และเป็นลูกค้าสัญญาระยะยาว ประกอบกับธุรกิจขายสินค้าพ่วงค่าขนส่ง และสินค้าที่เราขนส่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) สูง ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ บริษัทฯ จึงได้มีการลงทุนซื้อรถขนส่งเพิ่มเติมมูลค่าราว 200 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซื้อไปแล้ว 40 — 50 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ในช่วงปลายปี 55 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และมีระยะเวลาสัญญาต่อเนื่องหลายปีทีเดียว ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นของบริษัทฯ เริ่มกลับมามีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะธุรกิจขายสินค้าพร้อมพ่วงขนส่ง ที่ตั้งแต่ไตรมาส 4/55 มีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นธุรกิจที่มี Margin ค่อนข้างดี เพราะเป็นการขายสินค้าพ่วงค่าขนส่ง คือรถเราไม่มีว่างกลับมาเลย จึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตยั่งยืนได้ สำหรับแนวโน้มผลงานปี 56 คาดว่าจะดีกว่าปี 55 แน่นอน จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะแค่ช่วง 2-3 เดือนแรกของปี 56 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 15% จากปี 55 ทั้งปีแล้ว” นายเกียรติชัย กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 977.89 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2554 ราว 29.99 ล้านบาท หรือลดลง 2.99% เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากบริการขนส่งสินค้าจำนวน 800.88 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 81.90 ของรายได้รวม ลดลงจากปีก่อน 70.38 ล้านบาท หรือลดลง 8.08% เนื่องจาก บริษัทฯ ได้ให้บริการขนส่งลดลง จากลูกค้าลดจำนวนการผลิตลง ขณะที่รายได้จากบริการจัดเก็บและกระจายสินค้า และรายได้จากการบริหารงานขนส่งจำนวน 116.70 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.93 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.23% เนื่องจาก ลูกค้าขายสินค้าได้มากขึ้นจึงเป็นผลให้รายได้จากการจัดเก็บและกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 56.32 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.76 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 37.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 202.96% เนื่องจากมีการขายสินค้าในประเทศมากขึ้น

ทั้งนี้ ต้นทุนรวมของปี 2555 อยู่ที่ 669.38 ล้านาท คิดเป็น 68.45% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 40.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.38% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของปี 2555 จำนวน 304.52 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 68.03 ล้านบาท หรือลดลง 18.26% เนื่องจากบริษัทฯ มีการซื้อรถขนส่งเพิ่ม ทำให้ต้นทุนคงที่ ที่เกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้จากการบริการขนส่งลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้ของปี 2555 และปี 2554 จำนวน 137.12 ล้านบาทและ 201.23 ล้านบาท ลดลงจำนวน 64.11 ล้านบาท หรือลดลง 31.86% โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายคงที่ ที่เกี่ยวกับรถที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากผลประโยชน์พนักงาน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น (งวดการดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2555) ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 จากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท รวมเงินปันผลทั้งปีเท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น

“ผลงานในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมาปรับลดลง เนื่องจากลูกค้าของบริษัทฯ รายหนึ่งลดกำลังการผลิตลงกว่า 20%อีกทั้งมีลูกค้าบางรายปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน รวมไปถึงลูกค้าต่อราคา ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ลดลง และเชื่อว่าผลงานปี 55 ที่ปรับลดลงมานั้น หลังจากปีที่ไม่ดีที่สุดของ KIAT ได้ผ่านไปแล้ว และแม้ว่าผลงานไม่ดีนักแต่บอร์ดบริษัทฯ ยังมีมติให้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอีกหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีบริษัทฯ จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เท่ากับเราจ่ายเงินปันผลไปราว 80% ของกำไรสุทธิ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกท่าน และให้มั่นใจได้ว่า บริษัทฯ จะทำผลงานให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ โดยเชื่อว่าผลงานในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน” นายเกียรติชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ