ผลวิจัยบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จดทำจำนวนซัพพลายของคอนโดมิเนียม โดยการนำตัวเลขของจำนวนยูนิตที่อยู่ในระหว่างปี 2552 ถึง 2555 มารวมกันเนื่องจากว่ามีหลายโครงการที่เปิดตัวก่อนปี 2551 ที่ขายหมดทั้งคอนโดฯ ในช่วงปลายปี 2555 จำนวนซัพพลายสะสมอยู่ที่ประมาณ 236,769 ยูนิต
ผลวิจัยบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าจำนวนยูนิตทั้งหมดที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งหลัง ของปี 2555 อยู่ที่ 34,378 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 26.93% ของจำนวนยูนิตที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวขึ้นใหม่ส่วนมากอยู่ในพื้นที่เขตปริมณฑลโดยคิดเป็น 74% ของจำนวนคอนโดฯ ทั้งหมด ตามด้วยในบริเวณส่วนเมืองของกรุงเทพฯ และพื้นที่ชานเมืองคิดเป็น 16% และ 10% ตามลำดับ
เนื่องจากมีที่ดินอยู่มากและการขนส่งมวลชนที่ได้แผ่ขยายออกมามากขึ้น ทำให้เขตปริมณฑลมีการพัฒนาหลายโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 โดยมียูนิตใหม่ทั้งหมด 25,392 ยูนิตที่ได้เปิดตัวในพื้นที่นี้ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่เช่น Manor Sanambinnam (1,848 ยูนิต) Fuse Mobius Ramkhamhaeng-Klongton (1,390 ยูนิต) และ Lumpini Ville Ramkhamhaeng 60/2 (1,212 ยูนิต)
การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณเขตเมืองของกรุงเทพฯ ก็คึกคักไม่น้อย ด้วยการเปิดตัวของยูนิตใหม่ราวๆ 5,611 ยูนิต ในย่านใจกลางของสุขุมวิทโดยเฉพาะตามแนวเส้น BTS สถานีนานา ถึงสถานีเอกมัยมีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดประมาณ 2,445 ยูนิตหรือเกือบ 44% ของจำนวนยูนิตใหม่ที่เปิดตัวในเขตเมืองกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยพื้นที่ชานเมืองมียูนิตที่เปิดตัวใหม่เพียง 3,375 ยูนิต ซึ่งส่วนมากจะรวมตัวกันอยู่ที่แถบ รัชดา-ลาดพร้าว ด้วยจำนวน 2,394 ยูนิต
นางสาวริษิณี กล่าวว่าดีมานด์ของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 23,790 ยูนิต ซึ่งบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นถึง 41.5% จาก 16,810 ยูนิตในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ดีมานด์ของคอนโดมิเนียมส่วนมากอยู่ในเขตปริมณฑลด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้อยู่ที่ราวๆ 18,306 ยูนิต ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงอัตราการขายที่เท่ากับประมาณ 72% ของจำนวนซัพพลายในพื้นที่ทั้งหมด ดีมานด์ของคอนโดฯ จับกลุ่มกันอยู่ที่บริเวณด้านเหนือของกรุงเทพฯ รวมถึงพื้นที่แจ้งวัฒนะ ติวานนท์ และรัตนาธิเบศร์ ทำเลเหล่านี้คิดเป็นประมาณ 7,360 ยูนิตที่ขายได้จาก 9,588 ยูนิตที่ได้เปิดตัวใหม่ในพื้นที่นี้
พื้นที่ในตัวเมืองเป็นทำเลที่น่าสนใจเพราะจำนวนยูนิตที่ขายได้นั้นสูงกว่าในแถบชานเมือง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 มียูนิตที่เปิดตัวใหม่ในตัวเมืองประมาณ 5,611 โดย 70% ของยูนิตทั้งหมด หรือ 3,937 ยูนิตได้ขายหมดแล้ว เมื่อเทียบกัน มีเพียง 1,546 ยูนิตที่ขายได้ในพื้นที่ชานเมืองอันเนื่องมาจากราคาของยูนิตที่ใกล้เคียงกับราคาของยูนิตคอนโดมิเนียมที่อยู่ในตัวเมือง ผู้ซื้อจึงมักจะเลือกซื้อคอนโดฯ ที่อยู่ในตัวเมืองมากกว่าเพราะมีการเพิ่มมูลค่าของทุนในระยะสั้นที่สูงกว่าเนื่องจากการขาดแคลนพื้นที่พัฒนาโครงการ โดยเฉพาะในย่านสุขุมวิทที่สถานี BTSค่อนข้างครอบคลุม ดีมานด์โดยรวมของคอนโดมิเนียมในกรุงเพทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 69.20% ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงจาก 62.07% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555
ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 102,230 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.02% จากครึ่งแรกของปี 2555 และ 7.6% จากในช่วงเดียวกันของปี 2554 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในตัวเมืองสูงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 150,648 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 3.8%จากครึ่งแรกของปี 2555 และ 7.9%จากในช่วงเดียงกันของปี 2554 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในเขตชานเมืองอยู่ลำดับที่สองที่ 102,088 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 3.96% จากครึ่งแรกของปี 2555และ 8.15% จากครึ่งหลังของปี 2554 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ปริมณฑลอยู่ที่ 53,916 ต่อตารางเมตรที่ได้เพิ่มขึ้น 4.86% จากครึ่งแรกของปี 2555 ราคาขายเฉลี่ยมีท่าทีว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งแสดงถึงต้นทุนแรงงานและเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาของที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร
เนื่องจากจำนวนคอนโดมิเนียมที่ล้นตลาดในเขตปริมณฑลในปี 2555 นางสาวริษิณี คาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ในตัวเมืองและในย่านชานเมืองในปี 2556 อีกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้นทุนของการพัฒนาคอนโดมิเนียมในตัวเมืองกรุงเทพที่เพิ่มสูงขึ้น ก็เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกิจกรรมในตลาดคอนโดมิเนียม ความนิยมของคอนโดมิเนียมในตอนนี้จะเป็นในรูปแบบของห้องขนาดกะทัดรัด ด้วยยูนิตแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาดเล็กกว่า 35 ตารางเมตร โครงการที่เปิดใหม่ส่วนมากจะเป็นในรูปแบบ 1ห้องนอนซึ่งมีคนให้ความสนใจมากกว่าห้องสไตล์สตูดิโอที่คาดว่าน่าจะหายไปจากตลาดเพราะห้อง 1ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ถึงแม้ว่าราคาขายโดยรวมต่อยูนิตจะคงที่ แต่ราคาขายต่อตารางเมตรก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกจุดที่น่าสนใจคือการเปิดตัวของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ระดับพรีเมียมหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นในปี 2556 ในเขตเมืองของกรุงเทพซึ่งราคาจะอยู่ที่มากกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร