พ.ญ. กุลกานต์ อมรพัฒนา กล่าว “สาเหตุของผมร่วง ผมบาง หรือ ศีรษะล้าน เกิดจาก สาเหตุหลัก คือ ภาวะผมร่วงจากพันธุกรรมซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างมากกับฮอร์โมนเพศชาย ส่วนสาเหตุย่อยๆ อื่นๆ เช่น ความเครียด โรคภัยไข้เจ็บ โรคของต่อมไร้ท่อ หรือโรคผิวหนัง แต่พบในเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่า ตามปกติแล้วคนเราจะมีการผลัดเส้นผมเป็นวงจร แต่ไม่ควรมากกว่า 100 เส้นต่อวัน หากรู้สึกผมร่วงมากผิดปกติ หรือผมร่วงเป็นหย่อมๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาวิธีรักษาแต่เนิ่นๆ”
ถ้าหากอาการ “ล้าน” มาแบบจัดเต็ม เอาไม่อยู่ คุณหมอปุ้ม แนะนำแนวทางการรักษา “หากตรวจพบว่าเป็นภาวะผมร่วงศีรษะล้านจากพันธุกรรม การรักษาที่ได้รับการยอมรับที่สุดในปัจจุบันมี 2 วิธีใหญ่ๆ คือ การใช้ยา และ การผ่าตัดย้ายเซลล์รากผม (Hair Transplantation) ซึ่งแบ่งเป็น 2 เทคนิค แบบแรก คือ STRIP เป็นการตัดหนังศีรษะจากท้ายทอยเป็นแถบยาว แล้วนำไปแยกเซลล์รากผมตามกระบวนการในกล้องจุลทรรศน์ เมื่อได้เซลล์รากผมแล้ว จึงนำกลับมาปลูกบริเวณด้านหน้าหรือส่วนที่ต้องการ ผมที่ปลูกจึงเป็นผมถาวรไม่ร่วงไปอีก เพราะเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยแข็งแรงเปรียบเหมือนไม้ยืนต้น เทคนิคที่ 2 คือ แบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นการย้ายเซลล์รากผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ใช้เครื่องมือขนาด 0.8 - 1.2 มม. เจาะรูเส้นผมทีละรูลงลึกถึงเซลล์รากผมด้านล่าง จากนั้นใช้คีมปลายแหลมดึงเซลล์รากผมออกมาจากหนังศีรษะ แล้วนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการ เทคนิคนี้กำลังเป็นที่นิยมกัน เนื่องจากไม่มีการเย็บแผล จึงไม่มีแผลเป็น นอกจากนั้นยังสามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้งมาปลูกที่ศีรษะได้ ในกรณีที่ผมจากท้ายทอยไม่เพียงพอ”
“ดีเจเจ๊แหม่ม” หนึ่งในผู้ทำ Hair Transplantation ที่เดอมาสเตอร์ แชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า “เจ๊แหม่มมีปัญหาเรื่องผมบางจากกรรมพันธุ์ ใช้วิธีกินยามาตลอด แต่เมื่ออายุมากขึ้น กินยายังไง ก็แก้ไขลำบากโดยเฉพาะถ้าต้นเหตุมาจากกรรมพันธุ์ แล้วก็ใช้ชีวิตลำบากตามไปด้วย จึงศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังมานานเกือบ 10 ปี จบพบนวัตกรรมใหม่และปลอดภัยที่ทั่วโลกใช้อยู่ตอนนี้ คือ Hair Transplant (การปลูกถ่ายเซลล์รากผม) จึงตัดสินทำ เลือกใช้วิธีแบบ STRIP ใช้เวลาในการทำ 9 ชั่วโมง เพราะใช้จำนวนกราฟมากถึง 2,500 กราฟ ซึ่งในหนึ่งกราฟใช้ผมประมาณ 1-3 เส้น แล้วนำไปปักตามจุดต่างๆ ที่ต้องการ หลังจากนั้นผมก็เริ่มงอกภายในเวลาประมาณ 3 เดือน และยาวตามที่เราต้องการในเวลาประมาณ 8-10 เดือน รู้สึกแฮปปี้มากและมีความมั่นใจมากขึ้น สำหรับคำแนะนำให้กับคนที่ต้องการทำ อย่างแรกเลย คือ ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนว่าตัวเราเองมีปัญหาทางด้านไหน และต้องศึกษาข้อมูลของแพทย์และคลินิกที่เราจะไปทำด้วยว่าต้องเป็นศัลยแพทย์จริงๆ เป็น Specialist ทางด้านนี้จริงๆ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตัวเอง”
เติมเต็มความงามแบบ 360 องศา ตั้งแต่หัวจรดเท้าได้ ที่ สถาบันความงาม ‘เดอมาสเตอร์’ (Dermaster) ซ.สุขุมวิท 63 (เอกมัยระหว่าง ซ.18-20) เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 — 21.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-714-4471, 089-311-3333 หรือ www.dermaster-thailand.com