มร. ทาคาชิ ซูซูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์พ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากมียอดการผลิตที่เพิ่มขึ้น โรงงานเดิมซึ่งมีเพียงอาคารเดียวมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ ดังนั้น ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 จึงได้ขยายโรงงานนี้ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 โดยกำหนดให้เป็นสถานที่ผลิตตู้เย็นขนาดกลางและขนาดใหญ่ สำหรับโรงงานใหม่แห่งที่ 2 นี้ ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ได้แก่ การใช้ระบบ Sky Light เพื่อให้ภายในอาคารได้รับสว่างจากดวงอาทิตย์ทำให้ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน นอกจากนี้ ได้ออกแบบอาคาร เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศ โดยคำนวณทิศทางของลมให้พัดผ่านอาคารและใช้ Jet Fan 47 เครื่องทำให้ลมหมุนเวียนภายในอาคาร โดยที่ Jet Fan ดังกล่าวนั้น ไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์ที่ติดตั้งไว้บนหลังคา ซึ่งมีขนาด 100 กิโลวัตต์
สำหรับในด้านการพัฒนาสินค้า การวางแผนพัฒนาสินค้าของเรานั้นมุ่งเน้นไปที่ตลาดอาเซียนกลุ่มชนชั้นกลางซึ่งมีอยู่จำนวนมากเป็นหลัก โดยมุ่งที่จะนำเสนอสินค้าที่จะทำให้เกิดไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ และเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสฉลองยอดการผลิตตู้เย็นครบ 10 ล้านเครื่อง รุ่น LOTUS โดยมีลักษณะพิเศษซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของชาร์ป นั่นคือ สามารถเปิดประตูได้ทั้งจากซ้ายและขวา (Dual Swing Door) มี Kangaroo Pocket ที่สามารถใส่ขวดน้ำได้เป็นจำนวนมาก มี Hippo Mouse สำหรับแช่ผักได้มากและหยิบใช้ได้สะดวก นอกจากนี้ ได้ออกแบบให้ช่องแช่เย็นซึ่งใช้งานบ่อยครั้งให้อยู่ด้านบน เป็นต้น นับว่าตู้เย็นรุ่นนี้มีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่จะทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในอาเซียนสะดวกสบายยิ่งขึ้น คาดว่าตู้เย็นรุ่นที่ระลึกนี้ จะได้รับความนิยมอย่างมากต่อไป
SATL เริ่มผลิตตู้เย็นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2531 ในปีแรกเริ่มจากยอดการผลิต 30,000 เครื่อง โดยผลิตรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย จากนั้น ได้ขยายการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ รวมกว่า 100 ประเทศ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย ยุโรป อเมริกา จีนและญี่ปุ่น เป็นต้น จนกระทั่งถึงปัจจุบัน SATL เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ โดยมีกำลังการผลิตตู้เย็นถึง 1.5 ล้านเครื่องต่อปี และตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทำได้ถึง 1.8 ล้านเครื่องต่อปี
สำหรับตู้เย็นที่ผลิตที่ SATL มีหลากหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กแบบประตูเดียวระบบ Direct Cool ไปจนถึงรุ่นใหญ่แบบ 4 ประตูระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (No Frost) เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่มียอดการผลิตตู้เย็นครบ 10 ล้านเครื่องในครั้งนี้ เราจึงได้พัฒนาตู้เย็นแบบ 2 ประตูระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ (No Frost) รุ่น Bottom Freezer ซึ่งมีเทคโนโลยี Dual Swing Door ที่สามารถเปิด-ปิดประตูได้ทั้งจากด้านซ้ายและด้านขวาซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาร์ปขึ้น โดยในเดือนมีนาคมนี้จะส่งไปจำหน่ายยังตลาดอาเซียนเป็นลำดับแรก ซึ่งเป็นตลาดที่คาดการณ์ว่ามีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการจำหน่ายไปยังตลาดทั่วโลกด้วย โดยใช้เทคโนโลยีและระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อส่งมอบสินค้าที่เหมาะกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในแต่ละภูมิภาค”
ด้านมร. มิตสึโอะ นาคาชิมะ รองผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม บริษัท ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดูแลด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า “โรงงานผลิตตู้เย็นของชาร์ปมีทั้งหมด 4 แห่ง คือ ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น, เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน, จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และที่ SATL แห่งนี้ โดยแบ่งหน้าที่ในการผลิตดังนี้ คือ โรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นผลิตเพื่อจำหน่ายยังตลาดญี่ปุ่น, โรงงานที่ประเทศจีนผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดประเทศจีนและญี่ปุ่น, ส่วนโรงงานที่อินโดนีเซียจะเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เพื่อจำหน่ายในตลาดอินโดนีเซีย
ส่วนโรงงานที่ SATL แห่งนี้ มีอัตราส่วนของการส่งออกมากกว่า 90% ของยอดการจำหน่ายทั้งหมด สำหรับชาร์ปแล้ว SATL ถือเป็นโรงงานที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากรับผิดชอบในการผลิตเพื่อจำหน่ายทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ในประเทศไทย อาเซียน ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย ยุโรป จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับตู้เย็นที่ผลิตจากทาง SATL นั้น ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพจากนานาประเทศ แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องการแข่งขันด้านราคา ซึ่งในเรื่องนี้ทางบริษัทแม่จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทาง SATL”