สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2556 เวลา 09.00 น.

จันทร์ ๑๘ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๓๓
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,591 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,592 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.53 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,250 บาท กับ 22,350 บาท และกลับมาปิดที่ 22,250 บาท กับ 22,350 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,516คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,116 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.7% แบบ 10 บาท ลดลง 0.05 % GFJ13 ปิด 22,450 บาท และ GFM13 ปิด 22,550 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,450 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,550 บาท

สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,592.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 4.4 เซนต์ มาปิดที่ระดับ 28.851 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,230 ตัน (ขายออก 3.31 ) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลบ 25.03 จุด ปิดที่ 14,514.11 จุด

ข่าวที่สำคัญ

- ราคาทองคำช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1,600 เหรียญ ทำจุดสูงสุด 1,605 เหรียญ จากปัญหาในไซปรัสกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ได้ปรับตัวลงมาหลุด 1,600 เหรียญอีกครั้ง อยู่ประมาณ 1,598 เหรียญ

- มูดี้ส์ออกมากล่าว การช่วยเหลือทางการเงินไซปรัสเป็นผลลบต่อผู้ฝากเงินทั่วยุโรป หลังจากเจรจากันนาน 10 ชั่วโมง ยูโรโซนและไอเอ็มเอฟได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ในช่วงเช้าวันเสาร์แต่เงื่อนไขที่ตามมาก็คือ ผู้ที่ฝากเงินในธนาคารไซปรัสมากกว่า 1 แสนยูโรจะต้องถูกจัดเก็บภาษี 9.9% ต่อครั้ง โดยการลงมติเกี่ยวกับประเด็นการจัดเก็บภาษี เพื่อป้องกันการเกิดภาวะล้มละลายแก่ธนาคารขนาดใหญ่ในไซปรัสได้ถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้ เวลา 19.00 น. โดยต้องได้รับเสียงอย่างน้อยมากกว่า 9 เสียง มิฉะนั้นแล้วอาจในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีสามพรรคในตอนนี้ที่ไม่สนับสนุน จากความกังวลเรื่องการลงมติดังกล่าว ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าต่ำกว่า 1.30 ดอลลาร์ต่อยูโร

- ผู้ฝากเงินในไซปรัสแห่กันถอนเงินออกจากธนาคารผ่านตู้ ATM และทำให้เงินในตู้หมดไปหลายเครื่อง ซึ่งนั่นก็สายเกินไป เนื่องจากทางไซปรัสได้ประกาศให้วันจันทร์เป็นวันหยุดธนาคารเพื่อป้องกันไม่ ให้เงินออกจากธนาคารและห้ามไม่ให้มีการโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

- ความผันผวนในตลาดสูง จึงคาดว่าจะมีกฎเพิ่มในตลาด เพื่อจำกัดการซื้อขายจากสถาบันใหญ่ๆ ซึ่งอาจทำให้สภาพคล่องลดลง และส่งผลต่อราคาทองคำในอนาคตได้

- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้น รวมถึง CPI ที่ออกมา สนับสนุนความคิดที่ว่าเฟดยังคงสามารถคงการใช้มาตรการกระตุ้นได้อีก แต่ปริมาณยังเบาบาง ก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. ประกอบกับตลาดหุ้นที่ลดลง

- เฮดฟันด์เพิ่มสถานะ Long ทั้งหมดระดับปานกลาง 0.639 ล้านออนซ์ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 มี.ค. ขณะที่มีการปิดสถานะ Short ทำกำไร 0.262 ล้านออนซ์ เนื่องจากทองคำได้สร้างแนวรับที่ 1,565 เหรียญแล้ว ก่อนที่ดีดตัวทดสอบแนวต้าน 1,600 เหรียญ โดยมีสถานะ Long สุทธิเพิ่ม 0.901 ล้านออนซ์สู่ระดับ 13.080 ล้านออนซ์

- SPDR ได้ขายเพิ่มในวันศุกร์ที่ผ่านมา 3.31 ตันจากระดับ 1,236.31 ตันสู่ระดับ 1,233 ตัน

- แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดี แต่คาดว่าเฟดจะยังคงใช้ QE เพื่อการว่างงาน โดยเบอร์นันเก้ได้สื่อว่าเขาเชื่อว่าผลเสียจากการไม่ใช้ จะมากกว่าการที่ยังใช้ QE ต่อ ซึ่งเฟดกำลังจะขยายงบดุล โดยไม่คำนึงถึงภาวะเงินเฟ้อ

- ข่าวสำคัญหลักของสัปดาห์นี้ คือ การประชุม FOMC โดยสมาชิกเฟดจะหารือถึงความเสี่ยงต่างๆ จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด ในขณะที่เบอร์นันเก้ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะยังคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไว้ โดยจะมีการแถลงของเบอร์นันเก้ คืนวันพุธ เวลา 1.30 น.

- สมาชิกอาวุโสพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาเห็นโอกาสสำหรับการตกลงกันกับโอบามาในเรื่องการตัดลดยอดขาดดุลและการควบคุมการตัดลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ทำเนียบขาวระบุว่า การลดงบประมาณรายจ่ายโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา อาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของสหรัฐลง 4-5 เดือนภายในสิ้นปีนี้ หากไม่สามารถตกลงกันได้

- คาดว่ายอดขายบ้านมือสอง และการสร้างบ้านใหม่อาจจะเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ดีขึ้น ช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

- รัฐสภาใหม่ของอิตาลีได้ลงมติเลือกประธานสภาคณะผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภาเมื่อวันเสาร์ โดยประธานสภาทั้งสองมาจากพรรคการเมืองฝ่ายกลาง-ซ้าย ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปและจะเริ่มปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการในวันพุธถึงการจัดตั้งรัฐบาล

- ในวันนี้นางเมอเคล จะเข้าร่วมประชุมกับผู้นำฝรั่งเศส โดยกล่าวก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมเมื่อวันเสาร์ว่า ยุโรปต้องดำเนินการปฏิรูปทางโครงสร้างเพื่อกระตุ้นการแข่งขันและลดภาวะการว่างงาน

- สิ่งที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้เช่นกัน ก็คือ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนว่าจะแสดงให้เห็นว่า จีนฟื้นตัวขึ้นได้หรือไม่

- มอร์แกน สแตนลีย์ สาขาจีนแผ่นดินใหญ่ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจจะเริ่มสูงขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้เร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 3.5% ธนาคารกลางจีนอาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน กล่าวว่า การที่จะบรรลุเป้าในการเพิ่มจีดีพีต่อคนและรายได้ส่วนบุคคลขึ้นเป็น 2 เท่าของปี 2553 ภายในปี 2563 นั้น จีนต้องมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยรายปีที่ 7.5% ในช่วงหลายปีข้างหน้า

- รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะยกระดับการป้องกันขีปนาวุธของประเทศด้วยการเพิ่มเครื่องบินสกัดกั้นขีปนาวุธข้ามทวีปจำนวน 14 ลำในอลาสก้า และจะจัดหาเรดาร์เสริมให้แก่ญี่ปุ่น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน

- Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 0.2%

- CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 0.7%

- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 64.2B ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 25.7B

- Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 77.6 ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 71.8

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานในช่วงขาลง คือกำลังปรับฐานทรงตัวอยู่ในกรอบ 1,585 — 1,610 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำพยายามทรงตัวบริเวณ 1,590 เหรียญ ในเช้าวันจันทร์นี้มีการ Breakout ในเชิงเปิด GAP ออกมาที่ระดับ 1,600 เหรียญ ในด้านของข่าวทั่วไปทางด้านปัจจัยพื้นฐานยังมีการขายของกองทุน SPDR ในคืนวันศุกร์หลังจากหยุดซื้อขายไปสองวัน แสดงถึงศักยภาพโดยรวมที่ยังไร้ทิศทางของทองคำ คาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,585 — 1,610 เหรียญในช่วงวันนี้

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค - พบว่าราคาทองคำมีการสร้าง GAP บริเวณ 1,595 เหรียญ และไปทดสอบระดับ 1,600 เหรียญ โดยมีแรงเทขายหนาแน่นบริเวณ 1,600 เหรียญ ยังคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,590 — 1,610 เหรียญในวันนี้ กราฟรายชั่วโมงเริ่มเป็นสัญญาณการทรงตัว ในขณะที่กราฟรายวันยังเป็นทิศทางขาลง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังแนะนำกลยุทธ์ในเชิงกรอบ Sideways ระหว่าง 1,590 — 1,610 เหรียญ ยังสามารถทรงตัวอยู่ได้ แนะนำให้ซื้อบริเวณแนวรับและขายเมื่อราคาสูงกว่าระดับ 1,600 เหรียญขึ้นไป และสร้างสถานะสมดุลของพอร์ทไม่อยู่ในเชิงบวกหรือลบมากเกินไป และทำกำไรระยะสั้นอย่างรวดเร็ว

- นักลงทุนถือ Long Position

หาจังหวะขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 1,603 เหรียญขึ้นไป

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้หาจังหวะซื้อปิดที่ระดับ 1,590 เหรียญลงมา หาจังหวะในการปิดสถานะ

Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,570 บาท

Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,490 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,660 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ