AOD ล็อคสัญญายาวให้กับเรือขุดเจาะเพิ่มอีกมูลค่าสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ

จันทร์ ๑๘ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๓:๓๐
Saudi Aramco เหมาจ้างเรือขุดเจาะทั้งสามลำของ AOD เป็นเวลา 3 ปี รวมมูลค่าสัญญาทั้งหมดสูงเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง หรือ AOD ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย หรือ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก มูลค่ารวมสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ

สัญญาดังกล่าว เป็นการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาของ AOD ลำที่สองและลำที่สาม ให้ไปทำงานขุดเจาะในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ในมูลค่ารวม 394 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสในการขยายสัญญาจ้างงานออกไปอีก 1 ปี โดยสัญญานี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้กับเรือทั้งสองลำรวม 68 ล้านเหรียญสหรํฐอีกด้วย ทั้งนี้ เรือทั้งสองลำกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ Keppel FELS ในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนเมษายน และกรกฎาคมตามลำดับ

ทั้งนี้ ซาอุดิอรามโค เพิ่งทำสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ ในการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาลำแรกของ AOD ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อรวมมูลค่าของสัญญาทั้งหมด ส่งผลให้ในอีกสามปีข้างหน้านี้ AOD จะรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นรวมกันเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมอร์เมดก่อตั้ง AOD ขึ้นในปี 2553 และปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน AODทั้งสิ้น 33.76%

“มูลค่าความสำเร็จของสัญญาฉบับนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันมุมมองของบริษัทฯ ที่มีต่ออนาคตของธุรกิจให้บริการขุดเจาะแก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น” นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองประธานกรรมการบริหารของ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ กล่าว “เราได้ลงทุนสั่งสร้างเรือขุดเจาะแบบสามขาทั้งสามลำของ AOD ในจังหวะที่สินทรัพย์ยังมีราคาต่ำเพราะตลาดยังไม่ฟื้นตัว และในวันนี้เรากำลังได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนดังกล่าว เพราะ เรือขุดเจาะสามขาที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงแบบของ AOD กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากเรือประเภทนี้มีอัตราการใช้ประโยชน์สูงมากเต็ม 100%”

“เรายินดีที่เรือขุดเจาะทั้งสามลำสามารถหาสัญญาที่มีอัตราค่าจ้างรายวันที่สูงมากได้ และปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเรากลายเป็นจริงขึ้นมาผ่านความสำเร็จของ AOD ในครั้งนี้ ” ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ซาอุดิ อรามโค ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญที่สุดของกลุ่มเราในเวลาเพียงไม่นาน เริ่มตั้งแต่สัญญา 5 ปีสำหรับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการงานตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยในอนาคต เราคาดว่า ตลาดตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของเรา”

เมื่อเร็วๆ นี้ AOD ได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5 เหรียญสหรัฐ เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเตรียมรับมอบเรือขุดเจาะทั้งสองลำ ซึ่งสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AOD ต่างก็จับจองซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นหลังจากการเพิ่มทุนของเมอร์เมดและซีดริล เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 33.76% และ 66.18% ตามลำดับ ทั้งนี้ ซีดริล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเมอร์เมด คือผู้นำในการให้บริการเรือขุดเจาะในทะเลน้ำลึก และยังรับหน้าที่ในการดูแลด้านการตลาดให้กับ AOD อีกด้วย

เกี่ยวกับ TTA

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยแผนการลงทุนของบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจอย่างสมดุลและหลากหลาย ทั้งในกลุ่มธุรกิจขนส่ง กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ TTA ได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจจากเดิมที่เคยเป็นแต่เพียงผู้ให้บริการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ด้วยการขยายการลงทุนไปยังบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ และนำบริษัท เมอร์เมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ หลังจากนั้น บริษัทฯ จึงได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจโลจิสติกส์และปุ๋ยในเวียดนาม (Baconco) ธุรกิจเหมืองถ่านหินในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และธุรกิจโลจิสติกส์ถ่านหิน (บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส) ธุรกิจขนส่งน้ำมัน (Petrolift) และธุรกิจท่าเรือในตอนใต้ของประเทศเวียดนาม (Baria)

เกี่ยวกับเมอร์เมด

บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลและงานให้บริการขุดเจาะแก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งชั้นนำ ก่อตั้งโดยนักประดาน้ำสัญชาติเดนมาร์ค ในปี 2526 เมอร์เมดมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติชั้นนำระดับโลก และได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องของการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง โดยในส่วนงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล เมอร์เมดให้บริการผ่านบริษัทในเครือ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เมอร์เมด ออฟชอร์ เซอร์วิสเซส (“MOS”) บริษัท ซับเทค และบริษัท ซีสเคป เซอร์เวย์ส ซึ่งทั้งหมดจะทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนองานบริการวิศวกรรมใต้ทะเลครบวงจร ทั้งในเชิงเทคนิค และส่งนักประดาน้ำที่มีความเชี่ยวชาญไปปฏิบัติงานยังฐานการผลิตและสำรวจ ทั้งในประเทศไทย การ์ต้า และอินโดนีเซีย ปัจจุบัน ส่วนงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล เป็นเจ้าของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลจำนวน 8 ลำ (โดยมี 3 ลำเป็นเรือสนับสนุนงานขุดเจาะพิเศษ) และยังเป็นเจ้าของอุปกรณ์ระบบดำน้ำลึกจำนวน 4 ตัว และยานพาหนะควบคุมระยะไกลอีก 12 ตัว เพื่อให้บริการลูกค้าทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย จีน เมดิเตอร์เรเนียน และตะวันออกกลาง สำหรับส่วนงานบริการขุดเจาะ ดำเนินการโดยบริษัท เมอร์เมด ดริลลิงค์ จำกัด (MDL) ซึ่งเป็นเจ้าของเรือขุดเจาะแบบ Tender rigs จำนวน 2 ลำ เพื่อให้บริการงานขุดเจาะ และให้บริการเรือที่พักอาศัยสำหรับสนับสนุนการขุดเจาะ นอกจากนี้ เมอร์เมดยังได้ก่อตั้ง ในบริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง จำกัด (AOD) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเมอร์เมดกับซีดริล AOD เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะแบบ jack-up rigs ที่ทันสมัยและมีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงจำนวน 3 ลำ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในปี 2556 ทั้งนี้ เมอร์เมดเป็นบริษัทสัญชาติไทย ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (MMT:SP) และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพ ประเทศไทย ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mermaid-maritime.com

เกี่ยวกับเอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง

เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง เป็นบริษัทที่เมอร์เมดก่อตั้งขึ้นในปี 2553 เพื่อบริหารกองเรือขุดเจาะแบบสามขา (Jack up Rig) สมรรถนะสูงที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ปัจจุบัน บริษัทมีกิจการย่อยอยู่รวมทั้งหมด 3 บริษัท ได้แก่ เอเชีย ออฟชอร์ ริก 1 จำกัด (“AOR1”) เอเชีย ออฟชอร์ ริก 2 (“AOR2”) และ เอเชีย ออฟชอร์ ริก 3 (“AOR3”) ทั้งนี้ AOD จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ออสโล ประเทศนอร์เวย โดยเรือขุดจาะลำที่หนึ่งได้ส่งมอบไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ในขณะที่เรือลำที่สองและลำที่สามมีกำหนดส่งมอบในเดือน เมษายน และ กรกฎาคม 2556 ตามลำดับ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aodrilling.com

เกี่ยวกับซาอุดิ อารามโค

ซาอุดิ อารามโค หรือบริษัทน้ำมันแห่งซาอุดิอาระเบีย เป็นผู้ผลิตและจัดเก็บน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองดาห์ราน และมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวสำรองอยู่ถึง 259,700 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ ซาอุดิ อารามโค ถือเป็นบริษัทปิโตรเลียมแบบครบวงจรที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งการสำรวจบ่อน้ำมัน การขุดเจาะและกลั่นน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโครเคมี และการซื้อขายและจัดส่งน้ำมัน ในปี 2554 ซาอุดิ อารามโคสามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งซาอุดิอาระเบีย อ่าวเปอร์เซีย และทะเลแดง คิดเป็นระยะทางรวม 1.5 ล้านกิโลเมตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ