ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมายในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้แสดงท่าทีว่าจะยื้อหรือไม่ยอมคืนคลื่น 1800 MHz ที่จะหมดสัญญาสัมปทานในช่วงปลายปีนี้ มาให้ กสทช. ดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายนั้น ในเบื้องต้น กสทช.จะขอความร่วมมือดีๆก่อน แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือก็จำเป็นต้องใช้ทุกมาตรการเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด ทั้งมาตรการทางปกครอง มาตรการทางแพ่ง และอาญา ซึ่งกรณีที่มีการฝ่าฝืนใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งๆที่ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่าหมดสิทธิ์ใช้ แต่หากยังมีการดื้อดึงฝ่าฝืนไปใช้คลื่นหรือไปสนับสนุนให้มีการลงทุนหรือหาลูกค้าเพิ่ม ก็เท่ากับว่ามีเจตนาจะกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงขอเตือนว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะต้องรับความเสี่ยงต่อบทกำหนดโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้ามีการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระก็ต้องเรียงกระทงลงโทษ ส่งผลให้มีโทษมากขึ้น นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบอัตราโทษสูงถึงจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผลที่ได้รับคืออาจติดคุกหัวโต ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการขู่ แต่เป็นบทลงโทษทางกฎหมายที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจน ในส่วนบทบาทของ กสทช.เอง ก็ต้องดำเนินการมิฉะนั้นจะถูกข้อหาฐานปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบ หรือ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไปด้วย
"กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า CAT ได้รับประโยชน์ตามบทเฉพาะกาล มิฉะนั้นจะมีบทเฉพาะกาลไว้เพื่ออะไร ขอให้เข้าใจให้ถูกต้องว่า บทเฉพาะกาล มาตรา 82-84 ของพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นฯปี 2553 นั้น ให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้ได้รับประโยชน์ตามกฎหมาย เดิมไม่ให้หายไปพร้อมกับพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ ปี 2543 ที่ถูกยกเลิกไป ทั้งนี้เพื่อเชื่อมรอยต่อระหว่างระบบเก่ากับระบบใหม่ แต่บทเฉพาะกาลก็มิได้คุ้มครองให้สามารถใช้คลื่นได้ตลอดไป มิฉะนั้นระบบใหม่คือระบบใบอนุญาตจะไม่สามารถเริ่มเดินหน้าได้เลย ในกรณีสัญญาสัมปทานที่มีระยะเวลา บทเฉพาะกาลรับรองสิทธิจนสิ้นสุดระยะเวลาของสัมปทานเท่านั้น โดยเมื่อสัญญาสัมปทานหมดอายุ สิทธิในการใช้คลื่นนั้นๆก็หมดตามไปด้วย ข้อกฎหมายเรื่องนี้ชัดเจนมากจะไปเอานักกฎหมายกี่สำนักมาตีความ หากมองตรงไปตรงมาโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ก็ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ ผมว่าน่าจะยอมรับความจริงกันได้แล้วว่าระบบสัมปทานให้ใช้คลื่นความถี่กำลังจะกลายเป็นอดีต หากเห็นแก่ประโยชน์ของชาติก็ไม่ควรที่จะอ้างเหตุต่างๆนานา เพื่อยื้อระบบสัมปทานให้อยู่ต่อไป เพราะถึงเวลาแล้วที่จะคืนคลื่นที่หมดสัมปทานมาให้กสทช. ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมาย นำไปจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง”
ดร.สุทธิพล กล่าวด้วยว่า ปัญหาใหญ่ในขณะนี้ก็คือ จะมีแนวทางในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้บริการอยู่ในระบบนี้จำนวน 17 ล้านเลขหมายอย่างไรในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะในขณะนี้ศักยภาพในการโอนย้ายเลขหมายได้เพียงวันละ 40,000 เลขหมายเท่านั้น หากจะโอนย้ายทั้ง 17 ล้านเลขหมาย ก็จะต้องใช้เวลาถึง 425 วัน ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 6 เดือนที่สัญญาสัมปทานจะหมดลง หากความสามารถโอนย้ายได้ประมาณ 7 ล้านเลขหมาย คงเหลือผู้ให้บริการค้างอยู่ในระบบถึง 10 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของกสทช.ที่จะต้องให้ความคุ้มครองผู้บริโภคกลุ่มนี้ ดังนั้นตนจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีกรรมการ กสทช.บางคนไปพูดว่าถึงอย่างไร ซิมก็ต้องดับ อีกทั้งยังยุยงให้ไปเร่งประมูลคลื่น 1800 โดยไม่ใส่ใจผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้มองว่า กสทช.เอาตัวรอด โดยละเลยหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนั้นตนจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ทางกฎหมาย คือ การกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดสัมปทานเพื่อมิให้บริการสาธารณะหยุดชะงัก แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่กสทช. ต้องกำหนดให้ชัดเจน ซึ่งแนวคิดในเรื่องนี้ตกผลึกแล้วและมีกฎหมายรองรับสอดคล้องกับแนวทางสากล หากภาครัฐและผู้ประกอบการร่วมมือกับ กสทช. อย่างจริงจัง เชื่อว่าปัญหานี้จะถูกก้าวข้ามไปโดยง่ายและสามารถนำคลื่นความถี่มาจัดสรรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเสรีอย่างเป็นธรรม เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
"ส่วนกรณีที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ CAT หยิบยกประเด็นว่า กสทช.จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภานั้น ผมขอย้ำว่าที่ผ่านมา กสทช. โดยกทค.ได้ดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เท่าที่ทราบมาในขณะนี้ไม่ปรากฎนโยบายรัฐบาลที่ไม่ให้คืนคลื่นเมื่อสิ้นสุดสัมปทาน และไม่ปรากฎว่ามีนโยบายใดที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ ปี 2553 อีกทั้งผมไม่เห็นด้วยต่อความพยายามในการไปขอมติครม. ให้ยื้อเวลาในการคืนคลื่นเพื่อใช้ประโยชน์ในคลื่น 1800 MHz ต่อไป ทั้งๆที่สัมปทานสิ้นสุดแล้ว เพราะเท่ากับเป็นการขอให้รัฐบาลทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการถูกเช็คบิลจากภาคการเมืองและภาคประชาชน" ดร.สุทธิพล กล่าวในที่สุด