นายพูลศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด เปิดเผยว่า “จากที่หลายโรงงานในภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลว่าอาจเกิดปัญหาไฟฟ้าดับและไฟฟ้าตกเนื่องจากการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากพม่าในช่วงเดือนเมษายนนี้ ล่าสุดทาง 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี ได้เตรียมความพร้อมและได้รับการยืนยันจากโรงไฟฟ้าเอ็นพีเอส ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานในสวนอุตสาหกรรมฯ ว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการของทั้ง 110 โรงงานในพื้นที่โครงการอย่างแน่นอน โดยปัจจุบัน โรงไฟฟ้าเอ็นพีเอสเอง มีกำลังการผลิตรวมกว่า 436 เมกะวัตต์ ในขณะที่โรงงานทั้งหมดมีความต้องการใช้ไฟฟ้าประมาณ 150 เมกะวัตต์ ดังนั้น จึงไม่น่ากังวลว่าจะส่งผลกระทบใดๆ ต่อกระบวนการผลิตของโรงงานลูกค้าในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โลหะและเครื่องจักร ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า”
“แม้เชื่อมั่นว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น แต่ทาง 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค เองมองว่าการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนหันมาช่วยกันประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าลงเป็นเรื่องที่สำคัญ และมีหลายกิจกรรมที่ทางเราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องคือ อาทิ จัดทำโครงการ Earth Hour ปิดไฟให้โลกพักร่วมกับชุมชนโดยรอบ และกิจกรรมค่ายอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมุ่งให้ความรู้และรู้ค่าพลังงานแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร รอบพื้นที่โครงการ เป็นต้น”
ด้านนายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเนชั่นแนลเพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือโรงไฟฟ้าเอ็นพีเอส กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันเอ็นพีเอสมีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค กำลังการผลิตรวม 436 เมกะวัตต์ ซึ่งส่งจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมใน 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค และมีเหลือส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกประมาณ 215 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันใช้ทั้งถ่านหินสะอาดคุณภาพดีและชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า จึงมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าผลิตไฟฟ้าป้อนให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและโรงงานอุตสาหกรรมได้เต็มกำลัง ทั้งยังมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 125 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จะใช้พืชพลังงาน อาทิ กากอ้อย ทลายปาล์ม เหง้ามันสำปะหลัง เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าส่งเข้าระบบได้ในปลายปีหน้า”
“ในฐานะผู้ประกอบการด้านพลังงานและพลังงานทดแทน เราเล็งเห็นว่าสถานการณ์ด้านพลังงานทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพราะความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่กำลังการผลิตมีอย่างจำกัด ประกอบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล อันได้แก่ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติกำลังจะหมดไปในอนาคต เอ็นพีเอส จึงมีการพัฒนาพลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบ การปลูกพืชพลังงานทดแทนการพึ่งก๊าซธรรมชาติในระยะยาวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เอ็นพีเอสให้ความสำคัญ ซึ่งนอกจากการส่งเสริมการปลูกต้นพลังงานแล้ว ยังมีโครงการพัฒนาสายพันธุ์ต้นหญ้าเนเปียร์ โดยอยู่ในระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าอีกด้วย” นายอภิชัยกล่าวปิดท้าย
อนึ่ง 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค เป็นผู้พัฒนาสวนอุตสาหกรรมในจังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่โครงการรวมกว่า 14,000 ไร่ อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิเพียง 110 กิโลเมตร และอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบังเพียง 130 กิโลเมตร โดยล่าสุดได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาสวนอุตสาหกรรมสีเขียว หนึ่งในโครงการสำคัญของกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน...