โดยทั้ง 12 คอลเลคชั่น ประกอบด้วย 1. Castanea (แคสทาเนีย) ความโค้งมนของเมล็ดเกาลัด, 2. Wrightia (วริทท์เทียร์) เส้นวงกลมของใบโมก, 3. Veiled Lady (เวียร์ เลดี้) โครงสร้างอันแปลกตาของดอกเห็ด, 4. Frisodiel (ฟริโซเดียว) รูปทรงของดอกบุหงาเซิง, 5. Desmos (เดสมอส) ความงดงามของดอกสายหยุด, 6.Bouae (บัวร์) รูปทรงกลมรีของผลมะปราง, 7. Entada (เอนทาด้า) ความแปลกตาของผลสะบ้า, 8. Sea Grape (ซี เกรฟ) ถ่ายทอดจินตนาการจากสาหร่ายองุ่นทะเล, 9. Bamboo (แบมบู) ปล้องรอยต่อของไม้ไผ่, 10. Oryza (ออริซา) ความงดงามของเมล็ดข้าว, 11. Nymphanea (นิมฟาเนีย) รูปทรงเรียวสง่าแห่งดอกบัว และ 12. Culia (คูเลีย) รูปทรงและสันของเกาลัดไทย
ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นได้รับการรังสรรค์จากช่างฝืมือที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญสืบทอดรุ่นต่อรุ่นไม่ต่ำกว่า 10 ปี พร้อมผสานเทคนิคสมัยใหม่ที่ทำให้เรือนร่างเครื่องประดับมีหน้ากว้างและส่วนโค้งเว้าดั่งธรรมชาติสรรค์สร้าง รวมทั้งเทคนิคการสร้างพื้นผิวที่มีความโดดเด่น อาทิ พื้นผิวแบบซาติน (Satin) หรือพื้นผิวทรายละเอียด (Sand Blast) จนเกิดเป็นเครื่องประดับที่สร้างความหรูหร่าสง่างามให้แก่ผู้สวมใส่ทั้งชายและหญิง