ข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัย จังหวัดชายทะเล ชลบุรี-ระยอง และ หัวหิน-ชะอำ-ปราณบุรี

พุธ ๒๐ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๓๙
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กำหนดจัดสัมมนา “วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย จังหวัดชายทะเล” ณ โรงแรม S31 ถนนสุขุมวิท 31 กรุงเทพฯ โดยนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้นำเสนอข้อมูลผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยล่าสุดในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิอื่นมาร่วมบรรยายและเสวนา

ข้อมูลที่ได้มาจากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2555 โดยเป็นข้อมูลจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย

ในจังหวัดชลบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 96,600 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 39,800 หน่วย อาคารชุดประมาณ 56,400 หน่วย และบ้านพักตากอากาศประมาณ 400 หน่วย

ในประเภทบ้านจัดสรร หน่วยของโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขายประมาณ 39,800 หน่วยนั้น มาจากโครงการจัดสรรมากถึง 363 โครงการ มากกว่าทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่จำนวนหน่วยมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ มีมูลค่าโครงการการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 113,000 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 27,500 หน่วย หรือขายได้แล้วร้อยละ 69 ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 76,900 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 12,300 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 36,100 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ มีประมาณ 256 โครงการ 26,400 หน่วย ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา หน่วยบ้านจัดสรรประมาณร้อยละ 36 อยู่ในระดับราคา 1-2 ล้านบาท และร้อยละ 72 อยู่ในระดับราคา 2-5 ล้านบาท โดยบ้านจัดสรรในระดับราคา 1-2 ล้านบาทเป็นทาวน์เฮาส์หรือบ้านเดี่ยวชั้นเดียวเป็นส่วนใหญ่

จากหน่วยในผังโครงการจัดสรรทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่ พบว่าอยู่ในอำเภอศรีราชาประมาณ 13,000 หน่วย ในอำเภอบางละมุงประมาณ 11,200 หน่วย ในอำเภอเมืองประมาณ 8,100 หน่วย ในอำเภอสัตหีบประมาณ 4,700 หน่วย และในอำเภอพานทองประมาณ 2,900 หน่วย

หากแบ่งตามประเภทจะเป็นบ้านเดี่ยวประมาณ 19,500 หน่วย เป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 11,700 หน่วย เป็นบ้านแฝดประมาณ 5,000 หน่วย และอาคารพาณิชย์ประมาณ 3,500 หน่วย ส่วนหน่วยที่เหลือเป็นที่ดินเปล่า ซึ่งทุกอำเภอมีบ้านเดี่ยวมากกว่าทาวน์เฮาส์ ยกเว้นอำเภอเมืองชลบุรีมีทาวน์เฮ้าส์มากกว่าบ้านเดี่ยว

อัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรในชลบุรีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6.3 หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยบ้านจัดสรรใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 16 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 4,100 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 12,800 หน่วย และส่วนใหญ่ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 23,000 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย (หรือเป็นบ้านว่าง) ประมาณ 2,100 หน่วย

ในประเภทอาคารชุด ห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งหมดมีมากถึงประมาณ 56,400 หน่วย มาจากประมาณ 217 โครงการ จำนวนหน่วยและจำนวนโครงการมีมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 170,200 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 37,400 หน่วย หรือขายได้แล้วประมาณร้อยละ 66 ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 113,800 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 19,000 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 56,400 ล้านบาท

จากหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่ พบว่าอยู่ในอำเภอบางละมุงมากถึงประมาณ 42,400 หน่วย ในอำเภอเมืองประมาณ 8,500 หน่วย ในอำเภอสัตหีบประมาณ 3,600 หน่วย และในอำเภอศรีราชาประมาณ 1,900 หน่วย และจากจำนวนหน่วยในผังทั้งหมด เป็นห้องแบบสตูดิโอประมาณ 14,300 หน่วย แบบหนึ่งห้องนอนประมาณ 35,700 หน่วย แบบสองห้องนอนประมาณ 5,600 หน่วย และแบบสามห้องนอนขึ้นไปประมาณ 800 หน่วย

อัตราการดูดซับของห้องชุดในชลบุรีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7.8 หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยห้องชุดใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 13 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 12,100 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างมากถึงประมาณ 32,300 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 11,900 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย (หรือเป็นห้องว่าง) ประมาณ 2,300 หน่วย

ในประเภทบ้านพักตากอากาศ หรือวิลล่า นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีจำนวนประมาณ 10 โครงการ รวมประมาณ 400 หน่วย อยู่ในอำเภอบางละมุงประมาณ 250 หน่วย และในอำเภอสัตหีบประมาณ 150 หน่วย เป็นประเภทบ้านเดี่ยวทั้งสิ้น

จากจำนวนหน่วยทั้งหมดนี้ ขายได้แล้วประมาณ 190 หน่วย หรือขายได้แล้วประมาณร้อยละ 47 ของหน่วยในผังทั้งหมด โดยเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 90 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 130 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 200 หน่วย ทั้งนี้ หน่วยสร้างเสร็จเหลือขาย (เป็นห้องว่าง) มีประมาณ 20 หน่วย

ในจังหวัดระยอง มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 12,600 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 10,400 หน่วย อาคารชุดประมาณ 2,100 หน่วย และบ้านพักตากอากาศประมาณ 120 หน่วย

ในประเภทบ้านจัดสรร หน่วยของโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขายประมาณ 10,400 หน่วยนั้น มาจากโครงการจัดสรร 106 โครงการ มีมูลค่าโครงการการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 23,700 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 6,900 หน่วย หรือขายได้แล้วประมาณร้อยละ 66 ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้แล้วประมาณ 15,600 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 3,500 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 8,100 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 95 โครงการที่เปิดการขายตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา

หน่วยบ้านจัดสรรประมาณร้อยละ 47 อยู่ในระดับราคา 1-2 ล้านบาท และร้อยละ 32 อยู่ในระดับราคา 2-5 ล้านบาท

จากหน่วยในผังโครงการจัดสรรทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่ พบว่าอยู่ในอำเภอเมืองระยองประมาณ 4,500 หน่วย อำเภอปลวกแดงประมาณ 3,500 หน่วย อำเภอบ้านฉางประมาณ 1,800 หน่วย และในอำเภอนิคมพัฒนาประมาณ 600 หน่วย หากแบ่งตามประเภทจะเป็นบ้านเดี่ยวประมาณ 6,300 หน่วย เป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 2,200 หน่วย เป็นบ้านแฝดประมาณ 1,000 หน่วย และเป็นอาคารพาณิชย์ประมาณ 800 หน่วย ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่า

อัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรในระยองอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7.3 หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยบ้านจัดสรรใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 14 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 1,700 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 3,600 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 5,100 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย (หรือเป็นบ้านว่าง) เพียงประมาณ 300 หน่วย

ในประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ 2,100 หน่วย มาจาก 20 โครงการ มีมูลค่าโครงการการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 4,800 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 1,500 หน่วย หรือขายได้แล้วร้อยละ 70 ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 3,100 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 600 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 1,700 ล้านบาท

หน่วยห้องชุดร้อยละ 41 อยู่ในระดับราคา 1-2 ล้านบาท และร้อยละ 11 อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท โดยอยู่ในอำเภอเมืองระยองประมาณ 1,500 หน่วย ที่เหลืออยู่ในอำเภอแกลงและอำเภอปลวกแดง

อัตราการดูดซับของห้องชุดในระยองอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10.1 หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยห้องชุดใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 10 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้าง พบว่าเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 450 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 900 หน่วย และสร้างเสร็จแล้วประมาณ 750 หน่วย

ในพื้นที่ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 4,750 หน่วย อาคารชุดประมาณ 14,900 หน่วย

ในประเภทบ้านจัดสรร หน่วยของโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขายประมาณ 4,750 หน่วยนั้น มาจากโครงการจัดสรร 69 โครงการ มีมูลค่าโครงการการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 15,300 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 2,550 หน่วย หรือขายได้แล้วเพียงประมาณร้อยละ 54 ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้แล้วประมาณ 8,600 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 2,200 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 6,700 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 59 โครงการที่เปิดการขายตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา

ระดับราคาต่อหน่วยบ้านจัดสรรค่อนข้างใกล้เคียงกันระหว่าง 1-2 ล้านบาท ระดับ 2-3 ล้านบาท และระดับ 3-5 ล้านบาท

จากหน่วยในผังโครงการจัดสรรทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่ พบว่าอยู่ในอำเภอหัวหินประมาณ 3,250 หน่วย อำเภอปราณบุรีประมาณ 800 หน่วย และอำเภอชะอำประมาณ 700 หน่วย อำเภอบ้านฉางประมาณ 1,800 หน่วย และในอำเภอนิคมพัฒนาประมาณ 600 หน่วย หากแบ่งตามประเภทจะเป็นบ้านเดี่ยวประมาณ 3,100 หน่วย เป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 650 หน่วย เป็นบ้านแฝดประมาณ 600 หน่วย ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่า

อัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.9 หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยบ้านจัดสรรใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 17 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 1,600 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,600 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1,550 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย (หรือเป็นบ้านว่าง) เพียงประมาณ 130 หน่วย

ในประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ 14,900 หน่วย มาจาก 48 โครงการ มีมูลค่าโครงการการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 67,600 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 8,000 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 36,900 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 6,900 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 30,700 ล้านบาท

หน่วยห้องชุดร้อยละ 19 อยู่ในระดับราคา 1-2 ล้านบาท ร้อยละ 18 อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท และร้อยละ 34 อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท โดยอยู่ในอำเภอชะอำประมาณ 9,300 หน่วย อยู่ในอำเภอหัวหินประมาณ 4,600 หน่วย และอยู่ในอำเภอปราณบุรีประมาณ 1,000 หน่วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0-2645-9675-6

ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ