3 องค์กร ผนึกกำลัง สร้างแฟรนไชส์ยุคใหม่

พุธ ๒๐ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๔:๐๙
สมาคมแฟรนไชส์ไทย ร่วมกับ ซีพี ออลล์ และธนาคารกสิกรไทย ผนึกกำลังครั้งใหญ่ มุ่งส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยยุคใหม่ รองรับไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เปิดหลักสูตรให้ความรู้ในการสร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมงให้กับผู้ที่สนใจ สร้างธุรกิจของตัวเองเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ชนิดเข้มข้น ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยรายใหม่อีก 5-7 %

น.ส.สมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย และบรรณาธิการ นิตยสาร ฟรี อีแมกกาซีนโอกาสธุรกิจ กล่าวถึงการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ไทยยุคใหม่ว่า “สมาคมแฟรนไชส์ไทยมีบทบาทในการส่งเสริม ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศ ในระยะเวลาที่ผ่านมา โดยการเติบโตของแฟรนไชส์ไทยในภาพรวม มีการเติบโตที่ต่อเนื่องประมาณ 15-20% ในแต่ละปี ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของแฟรนไชซี่ ในขณะที่กลุ่มผู้ขายแฟรนไชส์รายใหม่ยังเกิดขึ้นไม่สูงนัก ซึ่งส่วนหนึ่งมีข้อจำกัดในด้านการขาดความรู้ในการสร้างระบบแฟรนไชส์ ดังนั้นสมาคมแฟรนไชส์ไทยจึงจะจัดโครงการอบรมสร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมงเป็นหลักสูตรเข้มข้น เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการสร้างระบบแฟรนไชส์ให้แก่เจ้าของกิจการที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือผู้ที่มีความสนใจในเรื่องแฟรนไชส์ โดยผนึกกำลังกันกับคณะกรรมการสมาคมแฟรนไชส์ไทยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งบริหารการจัดสัมมนาโดย นิตยสารฟรี อี แมกกาซีนโอกาสธุรกิจ และบริษัทแฟรนไชส์โฟกัส เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่เปิดกว้างให้ความรู้เรื่องการสร้างระบบ แฟรนไชส์”

การอบรมการสร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมงครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ 3 โดยสมาคมแฟรนไชส์ไทย ซึ่งครั้งล่าสุดที่ผ่านมาได้จัดไปเมื่อเดือนตุลาคม 2555 จากผลสำรวจผู้เข้าอบรม 62 คน พบว่า 98% มีความเห็นว่าเป็นการอบรมที่ดี และ 87% มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมอีกในกิจกรรมต่อไป ทำให้ทางสมาคมแฟรนไชส์ได้จัดการอบรมสร้างระบบ แฟรนไชส์ 20 ชั่วโมง ต่อเนื่องประจำปี 2556 ขึ้นอีกครั้ง ตลอดเดือนพฤษภาคม (ดังนี้รายละเอียดตามเอกสารที่แนบมาด้วย)

ซึ่งหลักสูตรประกอบด้วย ขั้นตอนการสร้างระบบแฟรนไชส์, เรื่องระบบมาตรฐาน, การจัดทำคู่มือ,ระบบการอบรม,การสร้างร้านต้นแบบ,การสร้างแบรนด์,สัญญาแฟรนไชส์ และการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์จริง เป็นต้น

กิจกรรมนี้เกิดขึ้นได้ เพราะการได้รับการสนับสนุนจากซีพี ออลล์และธนาคารกสิกรไทย ด้าน น.ส.อนิษฐา ธนมิตต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวถึงความร่วมมือเพื่อผนึกกำลังสร้างแฟรนไชส์ยุคใหม่ ว่า ซีพี ออลล์มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกับสมาคมแฟรนไชส์ไทยและธนาคารกสิกรไทย จัดอบรมหลักสูตร "สร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมง" เพื่อให้ความรู้ในการสร้างระบบแฟรนไชส์

เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจในการทำธุรกิจแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีระบบมาตรฐานสากลและเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีผู้สนใจจะเข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์จำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สำหรับการจัดอบรมครั้งนี้บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุน อาทิ สถานที่อบรมโดยจัดขึ้นที่ อาคารซีพี ทาวเวอร์ สีลม วิทยากรที่มีประสบการณ์มาถ่ายทอดความรู้ในการสร้างระบบแฟรนไชส์ รวมไปถึงการบริหารจัดการสินค้าและบริการ การบริหารการตลาด การบริหารเงินทุน โลจิสติกส์ สต็อกสินค้า การบริหารบุคคล การบริหารการเปลี่ยนแปลงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจแฟรนไชส์

พร้อมทั้งเยี่ยมชมกิจการของบริษัท ซีพีแรม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารประเภทติ่มซำ, อาหารกล่องพร้อมรับประทาน, เบเกอร์รี่ต่างๆ ซึ่งได้มาตรฐานสากล ในกลุ่มซีพี ออลล์ อีกด้วย “ปัจจุบันร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มีจำนวนร้าน แฟรนไชส์ 3,923 สาขาทั่วประเทศ สัดส่วนร้านแฟรนไชส์คิดเป็น 56 % โดยในปี 2556 ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนของร้านแฟรนไชส์เป็น 58 % สำหรับการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ซีพี ออลล์ได้พัฒนาระบบงานและทีมงานที่มีคุณภาพ ให้ความรู้และทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ” น.ส.อนิษฐา กล่าว

นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ของประเทศให้ก้าวหน้า และให้การสนับสนุนอย่างจริงจังโดย “ที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยได้เข้ามามีส่วนช่วยในการสนับสนุนและผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2553 โดยการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ K-SME Franchise Credit ซึ่งเป็นการให้วงเงินแก่ผู้รับสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchisee) ที่เลือกธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ (Franchisors ) ซึ่งผ่านเกณฑ์ของธนาคารจำนวน 65 แฟรนไชส์ โดยปัจจุบันมีผู้รับสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchisee) ที่ได้รับการสนับสนุนวงเงินไปแล้วกว่า 522 ล้านบาท ทั้งนี้ แฟรนไชส์เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างธุรกิจของตนเองให้เติบโตได้อย่างเร็วขึ้น และเป็นธุรกิจที่โตอย่างมีระบบ ที่สำคัญยังสามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของแฟรนไชส์ได้อย่างมาก

สำหรับความร่วมมือ ในโครงการ อบรมระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมง ที่ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับ 2 หน่วยงาน ได้แก่ สมาคมแฟรนไชส์ไทย และ บมจ.ซีพี ออลล์ ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ในการสนับสนุนธุรกิจแฟรนไชส์ไทย เพราะจะร่วมมือกันผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจโดยใช้ระบบแฟรนไชส์เข้ามาบริหารจัดการ ทำให้เกิดแฟรนไชส์ซอร์หน้าใหม่ที่มีศักยภาพในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

โดยธนาคารกสิกรไทยจะให้ความสนับสนุนด้านผลิตภัณฑ์การเงินที่เหมาะสมกับการทำธุรกิจแฟรนไชส์ และองค์ความรู้ในการบริหารจัดการการเงินอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ที่ผ่านการอบรมจะสามารถเข้ามาอยู่ในระบบรายชื่อธุรกิจแฟรนไชส์ซอร์ของธนาคาร ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เจ้าของแฟรนไชส์ มีโอกาสในการขยายธุรกิจได้เร็วขึ้นอีกด้วย

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีการคาดการแนวโน้มตลาดแฟรนไชส์ในประเทศว่า ภายหลังการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2558 จะมีตลาดแฟรนไชส์ต่างชาติที่สนใจและเตรียมจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานลงทุนระบบแฟรนไชส์เพื่อขยายในตลาดอาเซียน โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน เป็นต้น จากทิศทางดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลาดแฟรนไชส์ในประเทศไทยมีโอกาสที่จะโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีปัจจัยที่สนับสนุนจากทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างมาตรฐานให้ระบบแฟรนไชส์ในประเทศให้สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพของธุรกิจตัวเองเข้าสู่มาตรฐานเท่าเทียมในระดับสากล และสามารถแข่งขันทั้งตลาดภายในและขยายออกไปนอกประเทศมากขึ้น ตลาดแฟรนไชส์ในปี 2555 มาถึงปี 2556 พบว่าแฟรนไชส์ มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.38 แสนล้านบาท โดยมี Franchisors (ผู้ให้สิทธิ์ในการประกอบธุรกิจ) จำนวนประมาณ 330 ราย และ Franchisee (ผู้รับสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจ) จำนวน 63,000 สาขา โดยธุรกิจ Franchisors ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรกของประเทศไทย ในตอนนี้ ได้แก่ 1. ธุรกิจร้านอาหาร (28%) 2. ธุรกิจร้านเครื่องดื่ม-เบอร์เกอรี่ (15 % ) และ3. ธุรกิจบริการ (12% ) เนื่องจากธุรกิจทั้ง 3 ประเภทนี้ เป็นธุรกิจที่มีการลงทุนไม่สูงมากนัก และมีระบบบการจัดการที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับผู้สนใจทำธุรกิจ

สมาคมแฟรนไชส์ไทย มีความมั่นใจว่า แนวโน้มแฟรนไชส์ยุคใหม่ หลังปี 2556 เป็นต้นไป น่าจะมีแนวโน้มที่สดใสยิ่ง หากมีแนวทางสนับสนุน ที่เกิดขึ้นดังนี้

1.ให้ความรู้อย่างไม่จำกัด โดยมีความร่วมมือระหว่างองค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ,เอกชน,สถาบันการเงิน และสมาคม แฟรนไชส์ไทยขยายความร่วมมือเพื่อเปิดกว้างในการให้ความรู้ที่จำเป็น สำหรับการสร้างระบบแฟรนไชส์ และการเลือกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงเทคนิคในการบริหารร้านให้ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

2.รวบรวมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ซึ่งทำโดยสมาคมแฟรนไชส์ไทย เช่น ด้านการจัดทำคู่มือ การสร้างแบรนด์ การสร้างระบบมาตรฐาน ออกแบบร้านต้นแบบ เป็นต้น เพื่อจัดทำโครงการพี่เลี้ยง หรือเข้าร่วมเป็นทีมที่ปรึกษา ฝึกสอนเจ้าหน้าที่ในสถานประกอบการ ที่ได้รับการคัดเลือกว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการทำแฟรนไชส์ โดยการสนับสนุนของภาครัฐ หรือสถาบันการเงิน

3.นโยบายการสนับสนุนที่ชัดเจนและต่อเนื่อง โดยการวางเป้าหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีการตั้งตัวเลขที่ชัดเจน ในการส่งเสริมทั้งระยะสั้นและในระยะยาว เช่น ใน 5 ปีข้างหน้า จะมีแฟรนไชส์ใหม่ 50 กิจการ เป็นต้น หรือใน 10 ปี จะมีแฟรนไชส์ไทยส่งออก 100 บริษัท เป็นต้น

4.ให้รางวัลส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ดีเด่น เพื่อกระตุ้นการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ให้ดีขึ้น ซึ่งกิจกรรมด้านนี้ก็มีอยู่แล้ว แต่อาจจะปรับปรุงให้ดีขึ้นและทำไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ

5.สนับสนุนการสร้างแบรนด์ สินค้าไทยส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์ในการโฆษณาทีวี สินค้าที่โฆษณาในทีวีไทยที่เป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงสุดในการสร้างความนิยมสินค้า-บริการนั้น มีแต่สินค้าแบรนด์ต่างชาติมากกว่า 80-90% เพราะราคาโฆษณาสูง นาทีเฉลี่ยประมาณ 50,000-300,000 บาท เป็นราคาที่กิจการคนไทยไม่สามารถจ่ายได้ ดังนั้นการสร้างแบรนด์ให้ธุรกิจที่ได้รางวัลต่างๆ ที่รัฐบาลส่งเสริมนั้น ควรได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสได้ใช้สื่อสาธารณะและสื่อของรัฐที่ต่อเนื่องระยะหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการสร้างแบรนด์สินค้า ให้เกิดความนิยมในตลาด อย่างได้ผล

6.กองทุนพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพในการเติบโตนั้น หากมีกองทุนที่ส่งเสริมการสร้างแฟรนไชส์นั้น จะมีรายได้ส่วนหนึ่งที่มาจากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์กลับคืนมา หากมีกองทุนส่งเสริมเพื่อการพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้นจะเป็นแนวทางที่ดีมาก ในการสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

การผนึกกำลัง สร้างแฟรนไชส์ยุคใหม่ ครั้งนี้ เป็นการรวมความรู้จากองค์กรที่มีศักยภาพ และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่ายิ่ง ให้กับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ รวมไปถึงผู้ที่ต้องการความรู้เพื่อนำไปใช้ในอนาคตด้วย ผลของการจัดกิจกรรมนี้ มั่นใจได้ว่า จะมีธุรกิจที่ดีๆของประเทศ ได้รับการส่งเสริม และสามารถขยายธุรกิจ ได้ด้วยระบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดตลาดอาเซียนที่กำลังจะมาถึงนี้ แฟรนไชส์จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขยายสินค้าและบริการไปสู่ตลาดการค้านี้ได้ สมาคมแฟรนไชส์ไทย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย, นิตยสาร ฟรี อีแมกกาซีนโอกาสธุรกิจ และบริษัทแฟรนไชส์โฟกัส จึงภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทในการสร้างการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ของประเทศไทยของเรา และคาดว่าจะมีการขยายความร่วมมือเพิ่มมากขึ้นอีก ในโอกาสต่อไป

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรมสร้างระบบแฟรนไชส์ 20 ชั่วโมง ติดต่อได้ที่ สมาคมแฟรนไชส์ไทย 02-321-7701-4 e-mail: [email protected] หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.franchisefocus.com, หรือ www.opbizmag.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version