บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เปิดตัวโครงการ บุญตา เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หนึ่งใน โครงการกุศลศรัทธาถนอมดวงตากับสภากาชาดไทย รณรงค์เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมบริจาคดวงตาและแว่นกันแดดให้กับผู้ป่วยและผู้ยากไร้ ณ ร้านหอแว่น และ Better Vision ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นปี 2556 พร้อมเปิดประมูลแว่นตากันแดดของเหล่าศิลปิน ดารา บุคคลที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมเดินแฟชั่นโชว์ของ ดารา นางแบบ นางแบบชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9
นาย ภาคี ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ด้วย บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านธุรกิจอุตสาหกรรมแว่นตา และเลนส์สายตา มีภารกิจในการพัฒนาคุณภาพสายตาเพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี บริษัทจึงมุ่งพัฒนาทั้งทางด้านสินค้าที่ต้องได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล และการบริการที่เป็นมาตรฐาน โดยบุคลากรที่ได้รับการอบรมอย่างมืออาชีพ และต่อเนื่องเพื่อให้ได้ศักยภาพที่ดีเยี่ยม ตลอดระยะเวลากว่า 48 ปี ที่ดำเนินกิจการ อีกหนึ่งเป้าหมายของบริษัทในฐานะมืออาชีพในธุรกิจด้านตรวจวัดสายตา จึงตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะแก้ปัญหาด้านสายตาให้กับคนไทย คือหน้าที่สำคัญที่บริษัทควรมีส่วนรับผิดชอบ จึงเป็นที่มาของกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ เช่น โครงการแว่นแก้ว โครงการทุนแว่นตา โครงการแด่น้อง ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมีความตั้งใจในการร่วมสนับสนุนองค์กรภาครัฐ และกิจกรรมชุมชนเพื่อให้คำขวัญ “คุณภาพสายตา คือ คุณภาพชีวิต” เป็นจริงเพื่อคนไทยทุกคน
ในปี 2556 นี้ เป็นปีที่บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ดำเนินกิจการมาครบ 48 ปี และตรงกับ 48 ปี ของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติภารกิจการจัดหาและบริการดวงตาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยกระจกตาพิการทั่วประเทศ ด้วยการรับดวงตาบริจาคและรณรงค์เผยแพร่ความรู้เรื่องการบริจาคดวงตาตลอดจนเผยแพร่ความรู้เรื่องการดูแลถนอมดวงตาเพื่อป้องกันโรคแก่ประชาชนทั่วไป บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด จึงได้ร่วมกับ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย จัดกิจกรรมพิเศษในวาระครบรอบ 48 ปีตลอดปี 2556 ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพดวงตาของตนเองและมีส่วนร่วมดูแลดวงตาผู้อื่นด้วยการบริจาคดวงตาและแว่นตากันแดดให้กับศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ในโครงการ “บุญตา” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการกุศลศรัทธาถนอมดวงตากับสภากาชาดไทย
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกา อำนวยการ สภากาชาดไทย และเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยและบริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัดมีอายุครบ 48 ปี เพื่อรณรงค์เชิญชวนลูกค้าของหอแว่นและบุคคลทั่วไป ร่วมบริจาคแว่นกันแดดที่มีคุณภาพและแสดงความจำนงบริจาคดวงตาให้กับศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เพื่อให้หอแว่นเป็นสื่อกลางในการรับบริจาคและส่งมอบให้กับศูนย์
ดวงตาสภากาชาดไทยนำไปให้ผู้ด้อยโอกาสที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายต่อดวงตา โดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึง 31 ธันวาคม 2556 มีเป้าหมายจำนวนผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา 4,800 ราย และจำนวนแว่นกันแดดมีคุณภาพพร้อมใช้ 20,000 อัน ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในโครงการได้โดยร่วมบริจาคได้ที่ร้านหอแว่น และ ร้าน Better Vision ทุกสาขาทั่วประเทศ ตลอดปี 2556 นี้
รศ.อรุณีประภา หอมเศรษฐี ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานชำนัญพิเศษในสังกัดสภากาชาดไทย มีภารกิจในการจัดหาดวงตาจากการบริจาคของประชาชน จัดเก็บดวงตาบริจาคด้วยเทคนิคมาตรฐานสากลและจัดสรรดวงตาที่ผ่านกระบวนการตรวจ คัดกรองโรคติดต่อต่างๆ พร้อมคัดแยกกระจกตาบรรจุในน้ำยาถนอมดวงตา ให้บริการแก่จักษุแพทย์ทั่วประเทศ ใช้ทำผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้ผู้ป่วยตาบอดจากกระจกตาพิการ
ปัจจุบัน มีผู้ป่วยตาบอดจากกระจกตาพิการที่ขึ้นทะเบียนรอดวงตากับศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทยจำนวนกว่า 8,000 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่ในแต่ละปีประมาณ 1,500 ราย ในขณะที่สามารถจัดเก็บดวงตาหลังผู้บริจาคเสียชีวิตได้เพียงปีละ 500 ดวงเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยรอดวงตาสะสมมากขึ้นทุกปี ซึ่งศูนย์ดวงตาพยายามดำเนินกิจกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์ “หาดวงตาให้เพียงพอ ผู้ป่วยรอไม่นาน ศูนย์ดวงตามาตรฐาน บริการครบวงจร”และพบว่า ปัญหาที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปีประการหนึ่งคือการขาดการดูแลถนอมดวงตาอย่างถูกต้อง ซึ่งแท้จริงแล้วสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้สายตาอย่างเหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการใช้แว่นกันแดด สำหรับการใช้แว่นกันแดด นอกจากจะช่วยถนอมดวงตาให้มีสุขภาพดีแล้ว ยังสามารถป้องกันอุบัติเหตุต่อดวงตาได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์ดวงตา คาดหวังว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวจะทำให้มีเครือข่ายช่วยเหลือสังคมเพิ่มมากขึ้น และประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับแว่นกันแดดเพื่อป้องกันดวงตาให้มีสุขภาพดีและจำนวนผู้ป่วยจากอุบัติเหตุลดลง ตลอดจนประชาชนได้รับทราบข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยเฉพาะดวงตาสามารถดูแลถนอมดวงตาของตนเองได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้โรคของดวงตาที่สามารถป้องกันได้มีจำนวนลดลงด้วย