สัญญา Comex ปิดลดลง 3.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,607.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 2.6 เซนต์ มาปิดที่ระดับ 28.81 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,222.16 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 80 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 92.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 55.91 จุด ปิดที่ 14,511.73 จุด
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาไม่ต่างจากช่วงก่อนการประชุมมากนัก ด้วยการอ่อนตัวลงมาเล็กน้อย แต่ยังแกว่งเหนือระดับ 1,600 เหรียญจากแรงหนุนของปัญหาในไซปรัส เพราะนักลงทุนได้อยู่ระหว่างการถอดรหัสถึงถ้อยแถลงที่กำกวม เพื่อทราบถึงนัยของผลของการใช้ QE
-ส่วนราคาทองคำในเช้านี้แกว่งตัวเพียงเล็กน้อย โดยมีนักลงทุนบางส่วนมีมุมมองบวกว่าปัญหาไซปรัสอาจจะไม่ลุกลามไปประเทศอื่นในยูโรโซน
-นักวิเคราะห์ Scotia (สโคเทีย) กล่าวว่าแม้ว่าไซปรัสจะมีการหารืออย่างมาก แต่ไม่มีมาตรการออกมา ทำให้ไม่มีเหตุผลที่ราคาจะไม่อยู่ในช่วงการปรับตัวขึ้น ตราบใดที่ยังไม่มีทางแก้ปัญหา และคาดว่าตลาดน่าจะยังแกว่งในกรอบ 1,600-1,620 เหรียญ
-ผู้นำไซปรัสยังคงพยายามแก้ปัญหาป้องกันการล้มละลาย หลังสภาไม่อนุมัติเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือจากอียู แต่ตลาดยังคงสงบ เนื่องจากนักลงทุนรอคอยทางเลือกอื่นของการแก้ปัญหา
-อีซีบีได้เลื่อนการลงมติที่จะตัดสินใจการให้กู้ยืมแก่ภาคธนาคารไซปรัส เนื่องจากยังรอความชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือ
-ไซปรัสได้สั่งธนาคารเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารหน้า นั่นหมายถึงอีซีบีไม่จำเป็นต้องลงมติในการประชุมกลางเดือนที่เริ่มเมื่อคืนนี้และคืนนี้ ทำให้รัฐบาลไซปรัสมีเวลาอีก 5 วันที่จะหารือถึงข้อตกลงในการป้องกันธนาคารล้มละลาย
-ไซปรัสหันมาขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย ที่ได้ขอให้ยืดเวลาครบกำหนดชำระเงินกู้ยืม5 ปีจำนวน 5 พันล้านยูโรออกไป และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในเงินกู้ 2.5 พันล้านยูโรที่เคยให้ในปี 2011
-ไซปรัสให้คำมั่นว่าจะหารือกับรัสเซียไปจนกว่าจะได้แนวทางแก้ปัญหา โดยประเทศต่างๆ รวมถึงเยอรมันต้องการที่จะให้รัสเซียให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่ไซปรัส โดยรัสเซียต้องการสิทธิ์ในการถือครองแก๊สธรรมชาติส่งออก และฐานทัพทหารแลกกับการให้ความช่วยเหลือ
-นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่า ในการที่จะสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้น ภาคธนาคารของไซปรัสจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยเจ้าหน้าที่ต่างๆ คาดหวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะหาจุดตกลงกันได้ในสุดสัปดาห์นี้
-เป็นไปตามคาดที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% และยังคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยระดับต่ำตอนนี้เหมาะสมต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายอัตราการว่างงาน 6.5% ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2015 และย้ำถึงการเข้าซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
-แต่มีคำแถลงอันใหม่ของเฟดที่ทำให้เกิดการวิจารณ์กันในนักลงทุนว่า ในการกำหนดขนาด อัตราเร็ว และสัดส่วนการเข้าซื้อสินทรัพย์ เฟดยังคงคำนึงอย่างเหมาะสมเกี่ยวกับผลดีและผลเสียของการเข้าซื้อ รวมถึงเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่มีความคืบหน้า
-สิ่งนี้ทำให้เกิดการวิจารณ์ถึงความกังวลเกี่ยวกับขนาดของงบดุล และผลเสียจาก QE ขณะที่นายเบอนันเก้กล่าวว่า ได้มีการควบคุมผลเสียและความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่คาดว่า สหรัฐกำลังเข้าสู่วิถีทางที่ถูกต้อง จึงขอเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในที่จะบรรลุเป้าหมาย และได้ย้ำถึงการปรับเปลี่ยนขนาดการเข้าซื้อ ว่าจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งเพิ่มขึ้น หรือลดลง
-HSBC กล่าวว่าการแถลงของเฟดเป็นปัจจัยที่ไม่ค่อยได้ส่งผลต่อราคา แม้จะยังมีคำแถลงป้องกันความเสี่ยงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีคำแถลงต่อต้านอย่างมากที่จะทำให้ราคาลดลง
-ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากการแถลงของเฟดที่เป็นไปตามคาด
-ค่าเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากที่เฟดแถลง และความกังวลเรื่องไซปรัสเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากไซปรัสได้รับคำมั่นถึงเงินกู้ยืมก้อนใหม่จากรัสเซีย
-นายเบอนันเก้ได้กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับนายโอบามาเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับอนาคตของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานเฟด และเขารู้สึกว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของบุคคลเดียวที่จะจัดการเรื่องการถอนมาตรการกระตุ้น โดยวาระของเขาจะสิ้นสุดลงปลายเดือน ม.ค. ปีหน้า
-รัฐสภาสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณเพื่อป้องกันการปิดตัวลงของรัฐบาล และทำให้รัฐบาลมีงบสำหรับปีนี้ที่ใช้ได้ถึง 30 ก.ย.
-ในวันนี้ต้องติดตามตัวเลขการขอสวัสดิการว่างงาน 19:30 น.
-อียูได้บรรลุข้อตกลงในโครงสร้างกฎหมายสำหรับสหภาพธนาคาร ที่จะมีอำนาจควบคุมการให้เงินช่วยเหลือแก่ธนาคารที่มีปัญหาได้โดยตรง
-การปรับตัวขึ้นของราคาทองเป็น 6 ช่วงตลาดทำการติดต่อกันได้ดึงดูดแรงซื้อทองคำแท่งจากนักลงทุนเอเชีย ที่ได้เคยซื้อชะลอลงในต้นเดือน
-ธนาคารกลางอินเดียอาจจะห้ามธนาคารไม่ให้ขายเหรียญทองคำในอนาคตอันใกล้
-พรรคฝ่ายขวาของสวิซเซอร์แลนด์ได้รวบรวมรายชื่อเพียงพอที่จะบีบให้มีการประชุมเพื่อข้อเสนอที่จะห้ามธนาคารกลางในการขายทองคำสำรอง
-ค่าเงินเยนได้อ่อนค่าลง โดยตลาดกำลังรอสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นชุดใหม่จะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วแค่ไหน ซึ่งจะมีการแถลงต่อสื่อภายหลังในวันนี้
-ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปรับแข็งค่ามากและเร็วไป ขณะนี้ ธปท.ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาดูแลการแข็งค่าของเงินบาทหรือไม่ ล่าสุดมีแนวโน้มจะหลุด 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯแล้ว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.6M ออกมาที่ระดับ -1.3M
- Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.25% ออกมาที่ระดับ 0.25%
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 332K คาดการณ์ออกมาที่ระดับ 343K
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.92M คาดการณ์ออกมาที่ระดับ 5.02M
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -12.5 คาดการณ์ออกมาที่ระดับ -1.6
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,605 — 1,612 เหรียญเมื่อวานนี้ ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวลดลงจากความคาดหมายว่าไซปรัสจะได้รับเงินกู้จากรัสเซีย สำหรับในคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ Jobless Claims คาดว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นประมาณ 11,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ Philly Fed Manufacturing Index และ Existing Home Sales คาดว่าจะดีขึ้น ซึ่งภาพรวมหากออกมาดีขึ้นตามคาดน่าจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หรือกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงได้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค - ราคาทองคำเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway กรอบ 1,600 — 1,615 เหรียญ ยังแนะนำให้นักลงทุนเปิดสถานะ Short Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น และวันนี้เงินบาทเริ่มมีการ Rebound ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยที่ระดับ 29.20 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนลงไปแข็งค่าและนิ่งที่บริเวณ 29.11 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมของปัญหาไซปรัสน่าจะแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งน่าจะมีผลต่อค่าเงินยูโรดอลลาร์และอาจจะกระทบต่อราคาทองคำในทิศทางขาลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ทำ Short Position ที่บริเวณ 1,610 เหรียญขึ้นไป และมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,600 เหรียญ และคาดว่าราคาทองคำน่าจะสามารถทรงตัวบริเวณเหนือ 1,600 เหรียญได้ในวันนี้ ทั้งนี้ให้รอดูตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาในคืนนี้
- นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้ทำปิดสถานะ Long Position บริเวณแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทำ Short Position ที่บริเวณแนวต้าน 1,610 เหรียญ โดยมองว่าทองคำยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้ และน่าจะหลุด 1,600 เหรียญลงมาใหม่
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,450 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,390 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,560 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง