สัญญา Comex ปิดลดลง 7.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,606.1 ดอลลาร์/ออนซ์ เซนต์ SPDR ถือครองทองคำ 1,221.16 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 93.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 90.54 จุด ปิดที่ 14,512.03 จุด
ข่าวที่สำคัญ
-สถานการณ์ในไซปรัสยังคงไม่เข้าที่เข้าทาง ตลาดทั่วไปยังจับตารอการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันภาวะล้มละลาย
-นายซาร์ริส รัฐมนตรีคลังไซปรัสไม่สามารถหาข้อตกลงกับรัฐมนตรีคลังรัสเซียเพื่อขอให้ช่วยเหลือได้
-ใน วันนี้เป็นกำหนดเส้นตายของไซปรัสว่าจะสามารถหาข้อตกลงในการเพิ่มทุนมูลค่า 5.8 พันล้านยูโรจากการเก็บภาษีเงินฝากธนาคารได้หรือไม่เพื่อการรับเงินช่วยเหลือ มูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร หากไม่สามารถตกลงกันได้ อีซีบีได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะตัดการให้สภาพคล่องแก่ธนาคารไซปรัส และอาจส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
-เมื่อวันศุกร์ S&P ประกาศตัดลดอันดับความน่าเชื่อถือของไซปรัสลงสู่ระดับ “ขยะ” จาก CCC+ เป็น CCC หลังจากรัฐสภาไซปรัสปฎิเสธมาตรการจัดเก็บเงินฝากในระบบธนาคาร ส่งผลให้ไซปรัสเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระ หนี้
-รอยเตอร์สรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ไซปรัสกำลังพิจารณาจัดเก็บภาษี 25% ต่อบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินมากกว่า 1 แสนล้านยูโร
-มู ดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดันความน่าเชื่อถือธนาคารไซปรัส 3 แห่งลง 1 ขั้น ได้แก่ แบงก์ ออฟ ไซปรัส, ไซปรัส ป็อปปูล่าร์ แบงก์ และเฮลเลนิก แบงก์ สู่ระดับ Caa3
-หลังจากที่นายอนันตาเซียเดส นายกฯ ไซปรัสเข้าหารือกับตัวแทนเจรจาจากกลุ่มทรอยก้า ไซปรัสและยูโรกรุ๊ปร่วมประชุมกันอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมกับนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ
-ผลการประชุม สรุปว่า ไซปรัสมีความเห็นพ้องต้องกันในเรื่องร่างการรับเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ มูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย ส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% สู่ระดับ 1.3023
-อย่างไรก็ตาม IMF ได้ปฏิเสธให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส โดยกล่าวว่า ไซปรัสต้องรวมภาคธนาคารรายใหญ่ทั้งสองแห่งของประเทศ
-นัก ลงทุนจะจับตาการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับไซปรัส และวิกฤตหนี้ยุโรปจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่จะกล่าวที่ London School of Economics ในวันนี้ โดยกล่าวในหัวข้อ "นักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายควรเรียนรู้อะไรจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน?"
-รวมไปถึงนายดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่จะกล่าวในกรุงนิวยอร์กวันนี้เวลา 23:30 น.
-ทาง ด้านสหรัฐ สำนักข่าว CNBC รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างงบประมาณมูลค่า 3.7 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปี 2014 ได้เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี
-ในวันนี้ สัญญาออพชั่น จะหมดอายุ อาจมีการทำ Short covering บ้างในวันอังคาร
-วัน ศุกร์นี้ตลาด COMEX ปิดเนื่องในวัน Good Friday และวันจันทร์เป็นวัน Passover ซึ่งเป็นวันหยุดเพื่อระลึกถึงการอพยพของชาวยิวจากอียิปต์ อาจมีการซื้อขายเบาบาง
-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า เหล่ากลุ่มบริษัททองคำที่ใหญ่ที่สุด นำโดยแบร์ริค โกลด์ คอร์ป ใช้เงินไปกับการซื้อเหมืองใหม่และโครงการต่างๆ ทั่วโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ และตอนนี้บริษัทต่างๆ กำลังรู้สึกได้รับแรงกดดัน
-SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 1,221.26 ตัน
-ทั้ง นี้ไซปรัสมีมติผ่านร่างกฎหมายฉุกเฉินเพื่อจัดตั้งกองทุนการลงุทน (Investment Solidarity Fund) โดยกำหนดเป้าหมายการระดมทุนประมาณ 5.8 พันล้านยูโร ตามการเรียกร้องจากยูโรกรุ๊ป เพื่อให้ได้มาซึ่งมาตรการให้ความช่วยเหลือด้วยเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์
-วิลเลียม บุยเตอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือที่นำเสนอแก่ไซปรัส มีขนาดเพียงพอที่จะช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตไซปรัส หากกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศให้การยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
-ธนาคารบาง แห่งของไซปรัสได้ประกาศใช้นโยบายจำกัดการถอนเงินสดจากตู้ ATM ได้วันละ 100 ยูโร (130 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวัน เนื่องจากการเจรจาให้ความช่วยเหลือกรีซยังไม่เป็นที่แน่นอนในขณะนี้ โดยที่มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนแห่ถอนเงินออกจาก ธนาคาร เนื่องจากการเจรจาร่วมกันระหว่างสองธนาคารรายใหญ่ อันได้แก่ Cyprus Popular Bank และธนาคารกลางไซปรัสที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
-เนื่อง จากนางคริสติน ลาการ์ด กล่าวว่า ธนาคารกลางไซปรัสต้องอยู่ภายใต้เดียวกันกับ Cyprus Popular Bank และธนาคารกลางไซปรัสต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน เพื่อคุ้มครองเงินฝากที่ต่ำกว่า 1 แสนยูโร และส่วนของเงินฝากที่มีระดับสูงกว่า 1 แสนยูโร
-ยานนิส สตูร์วนาราส รัฐมนตรีการคลังของกรีซ กล่าวว่า ข้อตกลงร่วมกันดังกล่าวจะช่วยปกป้องกรีซ เนื่องจากกระแสเงินฝากทั้งหมดในธนาคารของไซปรัสจะได้รับความคุ้มครอง ทำให้เกิดเสถียรภาพทางระบบการเงิน และสามารถหาวิธีแก้ปัญหาของไซปรัส รวมถึงประชาชนในประเทศได้นั่นเอง”
-เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสำนักงาน สถิตแห่งชาติของสเปน เปิดเผยว่า ยอดการยึดบ้านจากการผิดนัดชำระหนี้ของสเปนในปีที่ผ่านมา (ปี 2012) ปรับตัวสูงขึ้น 17.7% เป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 91,622 หลัง โดยจากสถิติพบว่าเป็นผลมาจากคนว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นและเงินเดือนที่ถูก ปรับลดลง นอกจากนี้ยังมีจำนวนครอบครัวและบริษัทต่างๆในประเทศสเปน ประกาศล้มละลายเพิ่มขึ้น 27.1% ในปีที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า
-ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า วิกฤตหนี้ยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆของสเปน รวมไปถึงปัญหาของกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทใหม่ด้วย
-สัญญา ทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายน ปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ที่ 7.7 ดอลลาร์ แตะระดับ 1,606.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนทำการเทขายทำกำไร หลังจากที่สัญญาทองคำปรับตัวสูงได้ในรอบเกือบ 1 เดือน ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Fed Chairman Bernanke Speaks เวลาประมาณเที่ยงคืนสิบห้านาที
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,605 - 1,612 เหรียญ ซึ่งข่าวทางด้านไซปรัสเช้านี้ดูเหมือนจะสามารถตกลงกันได้ และได้รับ เงินช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศจากอีซีบี อียู และไอเอ็มเอฟ ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยรวมดูจะดีขึ้น โดยที่ในคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ
วิเคราะห์ ราคาทองคำทางเทคนิค — ในทางเทคนิคมองได้ว่าราคาทองคำในระยะสั้นๆ และปานกลางเริ่มเข้าสู่ทิศทาง Sideways อีกครั้งหนึ่งในกรอบ 1,600 — 1,615 เหรียญ เชื่อว่าราคาทองคำเคลื่อนตัวได้ไม่มากในสัปดาห์นี้ โดยที่ในวันศุกร์จะเป็นวันหยุดยาวเนื่องในวัน Good Friday ค่าเงินยูโรเช้านี้สามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1.3000 ดอลลาร์/ยูโรได้อีกครั้งหนึ่งจากข่าวไซปรัส ราคาทองคำกลับปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อยจาก 1,612 เหรียญ ลงมาที่บริเวณ 1,609 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำให้ลงทุนอยู่ในกรอบแคบ ซึ่งช่วงนี้จะเห็นปริมาณการซื้อขาย Gold Futures และตลาดต่างประเทศน้อยลง
- นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้ลงทุนในระยะสั้นในกรอบ 1,605 — 1,615 เหรียญเป็นหลัก
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ลงทุนในระยะสั้นในกรอบ 1,605 — 1,615 เหรียญเป็นหลัก
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,380 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,550 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,470 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,650 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง