เชสเตอร์ส่งกลยุทธ์ 7P ฝ่าสมรภูมิตลาดอาหารจานด่วน (Fast Food) หวังนำฟาสต์ฟู้ดไทยนั่งกลางใจผู้บริโภค

จันทร์ ๒๕ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๖:๑๔
นายสุวัฒน์ ทรงพัฒนะโยธิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ผู้บริหารร้าน “เชสเตอร์” เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหารขณะนี้มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในส่วนของการออกเมนูใหม่ที่มีความหลากหลายเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ในลักษณะข้ามเซ็กเมนต์ การแข่งขันในธุรกิจฟาสต์ฟู้ด จึงพบกลยุทธ์การใช้เมนูอาหารไทยเป็นตัวทำการตลาดของทุกค่าย โดยเฉพาะการนำเมนูข้าวมาเสริมจนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เพราะพบว่าการพึ่งเมนูหลักเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกระตุ้นการบริโภคให้เพิ่มขึ้นได้เท่าที่ควร

นายสุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ทุกค่ายเร่งปรับตัวด้วยการออกเมนูอื่นๆ มาเสริมนอกเหนือจากเมนูหลักของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ขึ้นกับจุดยืนของแต่ละค่าย โดยหากเป็นกลุ่มข้าวและไก่ย่างแล้วก็ต้องเป็นเชสเตอร์ ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งในเรื่องโภชนาการ คุณค่าของอาหาร และที่สำคัญคือราคาที่คุ้มค่า ซึ่งจะส่งผลให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น สามารถเพิ่มความถี่ของผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้อีกเท่าตัว

“จากภาพรวมตลาดฟาสต์ฟู้ด (Quick Service Restaurant : QSR) ณ ปัจจุบันที่มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าไก่ 50%กลุ่มพิซซ่า 30% และกลุ่มเบอร์เกอร์ 20% มีอัตราการเติบโตรวมเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10-15% นั้น มองว่าเป็นตลาดที่มีทั้งความแข็งแกร่งและศักยภาพในการขยายธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้นได้อีก สำหรับในส่วนของเชสเตอร์ปีนี้ จะมุ่งให้บริการด้วยแผนการเพิ่มเมนูอาหารใหม่ๆ ในทุกไตรมาส หรือประมาณ 8 เมนูตลอดทั้งปี ล่าสุดได้เปิดตัว ข้าวปลาแซลมอนย่างมะนาว เพื่อสร้างสีสันและเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันยังเพื่อเพิ่มความถี่ของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยยังคงชูจุดแข็งในเรื่องของราคาที่คุ้มค่า ภายใต้กลยุทธ์ความสำเร็จ 7P คือ Promotion Place Price Product Process People และ Physical Environment เพื่อให้ในสิ้นปีนี้ (2556) มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,600 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้” นายสุวัฒน์ กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกับเชนฟาสต์ฟู้ดต่างชาติ แม้จะประสบกับภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่ยังคงเชื่อมั่นในกลุ่มเป้าหมายของเชสเตอร์ คือกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว ที่ชื่นชอบอาหารสชาติที่เยี่ยมถูกปากคนไทยและมีคุณค่าสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักต่อการได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง

ปัจจุบันร้านเชสเตอร์เปิดให้บริการทั้งหมด 176 สาขา แบ่งเป็นร้านของบริษัทฯจำนวน 76 สาขา หรือคิดเป็น 40% ร้านแฟรนไชส์ จำนวน 100 สาขา คิดเป็น 60% โดยจะขยายสาขาเพิ่มอีก 15-20 สาขาในปี 2556 ตามคอมมิวนีตี้มอลล์ ศูนย์การค้า ไอเปอร์มาร์เก็ต และสถานีบริการน้ำมัน โดยได้เตรียมงบการลงทุนจำนวน 170 ล้านบาท สำหรับ การ ขยายสาขาเพิ่ม ด้านงบการตลาดสำหรับปีนี้ ได้จัดเตรียมไว้ที่ 80-90 ล้านบาท โดยยังเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปยังผู้บริโภค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ