นายสุรชัย อลงกรณ์โชติกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟรีวูด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์รองเท้าแบรนด์ “Freewood” เปิดเผยว่า ในปีนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 26 ปี ของบริษัทฯ จึงได้จัดวางแผนและกรอบทิศทางธุรกิจใหม่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในทุกระดับ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ แยกเป็นในส่วนของรองเท้าลำลอง 60 เปอร์เซ็นต์ และรองเท้าทำงาน (ผู้ชาย) 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเจาะตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยผลิตภัณฑ์รองเท้าฟรีวูด จะวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นห้างโรบินสัน ห้างเดอะมอลล์หรือห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นชั้นนำทั่วประเทศ โดยแบรนด์ “Freewood” จะเป็นโลโก้ หัวม้า อยู่ด้านบนของตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ซึ่งสื่อความหมายถึงการทำงานอย่างว่องไวในเชิงธุรกิจและการตลาด และเป็นโลโก้สัญลักษณ์ที่ได้รับการชื่นชมจากกรมส่งเสริมการส่งออก และทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการส่งเสริมการรับรู้ของผู้บริโภคต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของไทย
นายสุรชัย กล่าวว่า ในปัจจุบันการแข่งขันผลิตภัณฑ์รองเท้าในประเทศไทย มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ลูกค้าที่ซื้อรองเท้าขึ้นอยู่รสนิยม บางคนเน้นแบรนด์จากต่างประเทศ แต่บางคนก็นิยมแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพและราคาไม่แพงมากนัก สำหรับตลาดในประเทศแบรนด์ “Freewood” มีคู่แข่งพอสมควร โดยแต่ละแบรนด์จะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มลูกค้าของ“Freewood” ส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยที่ประมาณ 26- 35 ปี และมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ จะเน้นในเรื่องของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดโปรโมชั่นตามห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเป็นหลัก พร้อมส่วนลดพิเศษและการจัดอีเว้นท์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับการการเปิดเขตเศรษฐกิจเสรี “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community AEC)” ในปี 2558 ซึ่งคาดว่าผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ไทย ในทุก ๆ ประเภท จำเป็นจะต้องวางแผนรองรับเพื่อทำให้เราได้มีโอกาสเติบโตในการเปิดตลาดการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ และประเทศในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะมีแบรนด์สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งเราก็จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในเรื่องคุณภาพของสินค้า บริษัทฯได้ทุ่มเทและพยายามผลิตรองเท้าที่มีคุณภาพ โดยมีการพัฒนารูปแบบของรองเท้าใหม่ๆ และพัฒนาด้านดีไซน์จากชูส์ดีไซน์เนอร์จากอิตาลีอยู่เสมอ ส่วนวัสดุและเทคโนโลยีที่ผลิต ก็มีความทนทานและมีความยืดหยุ่น เพิ่มความมั่นใจเวลาสวมใส่ของผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันมียอดขายสินค้าต่อปีจำนวนกว่า 2 แสนคู่ และมีการส่งออกไปยังยุโรป อาทิ ประเทศเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส มอลตา โปรตุเกส กรีซ แคนาดา คิดเป็นมูลค่าการส่งออกต่อปี กว่า 40 ล้านบาท ในส่วนของประเทศในแถบอาเซียน ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า และประเทศลาว เป็นต้น