นายบุญเลิศ วิบูลเกียรติ รองประธานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ซัมซุงผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลกเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยพัฒนาการเรียนการสอนของนักเรียน นักศึกษาในประเทศไทย ยกระดับให้การศึกษาไทยสู่ก้าวความเป็นเลิศในยุคดิจิตอล ล่าสุดซัมซุงรุกตลาดธุรกิจลูกค้าองค์กร (B2B - Business to Business) กลุ่มการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอโซลูชันเพื่อการเรียนรู้สุดไฮเทคอย่าง “Edu Cloud”และ“Witz School”ที่ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาแอพพลิเคชันอย่าง Born และDigital Educationผ่านนวัตกรรมของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 10.1 และ ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 2 10.1 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้กับเด็กวัยเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไปจนถึงนักศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมร่วมมือกับเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ในฐานะผู้จัดจำหน่ายเพื่อขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งซัมซุงเชื่อมั่นว่าโซลูชันที่เรานำเสนอนี้จะช่วยผลักดันการเรียนรู้ของเด็กไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น สร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่สนุก น่าสนใจมีประสิทธิภาพ และไม่จำกัดอยู่แค่ภายในห้องเรียนเท่านั้น ตรงตามคอนเซ็ปต์ “Anywhere, Anytime — เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา”
นายธีรพล เกียรติสุรนนท์รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ในฐานะผู้นำด้านการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้าและการกระจายสินค้าหลากหลายประเภท มุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้ถึงมือผู้บริโภคและเพื่อรองรับรูปแบบการเรียนการสอนในยุคดิจิตอลที่ รวมถึงความแข็งแกร่งของเราเองในตลาดการศึกษา จากทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศของสินค้าประเภทเครื่องเขียน และจุดกระจายสินค้าของบริษัทในเครืออย่าง เอเชียบุ๊คส์ ทำให้ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์มองเห็นถึงอาวุธ เครื่องมือใหม่ๆ ที่ต้องการนำเสนอให้แก่ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา เบอร์ลี่ ยุคเกอร์จึงเข้าร่วมพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดการศึกษา โดยถือเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว สำหรับสินค้า 2 ประเภท คือ“Witz School”มุ่งเน้นการเจาะตลาดประถมศึกษาและ “Edu Cloud”มุ่งเน้นการเจาะตลาดมัธยมศึกษาจนถึงมหาวิทยาลัยเบอร์ลี่ยุคเกอร์ในฐานะของผู้จัดจำหน่าย และผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้เชื่อว่าด้วยนวัตกรรมเพื่อการศึกษาล่าสุดที่เราได้ร่วมกันนำเสนอจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดการพัฒนาการเรียนรู้ในประเทศไทยให้ทันสมัยมากขึ้น”
นายสุพลตันติศิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น จำกัดกล่าวว่า “บอร์นและซัมซุงร่วมกันพัฒนาบริการซอฟต์แวร์ด้านการศึกษารูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อว่า “Edu Cloud” ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่จะนำแท็บเล็ตซัมซุง มาประยุกต์ใช้กับการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาขึ้นไปผ่านระบบ Cloud Computing ของบอร์น เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน รวมถึงผู้ปกครองและเพื่อนร่วมชั้น ให้มากขึ้น โดยอิงกับระบบ LMS(Learning Management System)ที่สถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ใช้อยู่บน MOODLE รูปแบบการจัดการการเรียนการสอนออนไลน์ แต่ซอฟแวร์ที่เราพัฒนาขึ้นมานั้นจะเป็นการต่อยอด MOODLE ให้มีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก ด้วยการพัฒนา Mobile Application ที่ชื่อ Edu App ซึ่งผู้เรียนสามารถศึกษาและทบทวนเนื้อหาได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเสริมการเรียนรู้ได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้นกว่าการใช้ระบบ E-Learning ทั่วไป”
“นวัตกรรม Creative Content ภายใต้ชื่อ Witz School เป็น Learning App Solution ที่ประกอบด้วย แอพพลิเคชันการเรียนรู้ถึง 7 แอพย่อยๆ ด้วยกัน ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กระดับชั้นประถมศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งแอพนี้จะช่วยใช้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วย แท็บเล็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นซึ่งแอพทั้งหมดจะเข้ามาตอบโจทย์การจัดการศึกษาด้วยแท็บเล็ตในทุกมิติ อาทิ เป็นสื่อเพื่อการเรียนรู้ (Learning Media) สื่อประกอบการสอน (Instruction Media) และเป็นสื่อให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง(Construction Media) ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียนอย่างครบครัน นอกจากนี้เด็กยังได้ความรู้ควบคู่ความสนุกสนาน เป็นการเรียนได้ทั้งในและนอกห้องเรียน ทั้งยังสามารถสร้างส่วนร่วมกันระหว่าง เด็ก ผู้ปกครอง และครูอีกด้วย” นายฉัตรชัย เลิศวิริยะภากรกรรมการผู้จัดการ บริษัท Digital Education จำกัดกล่าวปิดท้าย