“โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วง 2 — 3 ปีที่ผ่านมาจะเน้นไปยังกลุ่มผู้ซื้อระดับกลาง — ล่าง แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการบางรายที่เปิดขายโครงการระดับบน และยอดขายเฉลี่ยของทั้งตลาดก็สูงเช่นกัน ผู้ซื้อหลักมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งต้องการคอนโดมิเนียมไว้ใช้พักผ่อนในวันหยุด โดยจะพิจารณาซื้อโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาด ราคาไม่สูงเกินไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม และมีการบริหารอาคารที่ดี อีกทั้งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือ” นายสุรเชษฐ กองชีพ กล่าว
สำหรับภาพรวมของอุปทาน และราคาขาย นายสุรเชษฐ กองชีพ กล่าวว่า “อุปทานคอนโดมิเนียมในพัทยา ณ สิ้นปีพ.ศ.2555 อยู่ที่ประมาณ 46,700 ยูนิต โดยที่ในปีพ.ศ.2555 มีคอนโดมิเนียมประมาณ 590 ยูนิตเท่านั้นที่สร้างเสร็จ และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่มากหลังจากเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งสร้างความวิตกให้กับผู้ประกอบการ ณ เวลานั้น ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพัทยา และจอมเทียน ลดลงประมาณ 13% จากปีพ.ศ.2554 เนื่องจากมี่โครงการขนาดใหญ่เปิดขาย ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ซื้อระดับกลาง — ล่าง หรือที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านบาท”
“ถนนจอมเทียนสายใหม่ได้กลายเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุด มีโครงการขนาดใหญ่อยู่หลายโครงการ ทำให้มีคอนโดมิเนียมประมาณ 15,400 ยูนิตที่ผู้ประกอบการกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2556 — 2558” นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มเติม
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในขณะที่ชาวต่างชาติเพิ่มสัดส่วนในการเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในพื้นที่พัทยาและจอมเทียน นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้ว่าผู้ซื้อชาวไทยก็เข้ามาซื้อในทุกระดับราคาในตลาด ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพัทยาที่มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของต่างมีปัญหาในการขายคอนโดมิเนียมของตนเองให้กับผู้ซื้อชาวไทยตามที่กฎหมายกำหนดคือไม่น้อยกว่า 51% แต่ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยเข้ามาพัฒนาโครงการในตลาดพัทยาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อชาวไทย แต่ขายให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติได้ไม่มาก อีกทั้งผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์เองก็ไม่ได้เน้นในตลาดชาวต่างชาติ ซึ่งถ้าพิจารณาจากเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้จะเข้าใจได้” คุณมาร์ค โบว์ลิ่ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและเช่าที่อยู่อาศัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สาขาพัทยา กล่าว
“ผู้ประกอบการคนไทยในตลาดพัทยาต่างก็ดำเนินการตามรอยความสำเร็จของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก เช่น แอลพีเอ็น คิวเฮ้าส์ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และแสนสิริ ในขณะที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นบางรายได้พยายามสร้างจุดขายให้กับโครงการของตนเองโดยการเพิ่มโรงแรมแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจจากผู้ซื้อชาวไทย และชาวต่างชาติ ชาวรัสเซียยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อขาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ในตลาดพัทยาในช่วงครังหลังปีพ.ศ.2555 เนื่องจากพวกเขาได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก แต่ว่าชาวรัสเซียจะซื้อในตลาดระดับล่างซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ซื้อชาวยุโรป และอเมริกัน ยังไม่ค่อยมีให้เห็นในตลาดพัทยาในปีที่ผ่านมา ในขณะที่สามารถพบผู้ซื้อชาวออสเตรเลียได้ในโครงการทั่วไป เพราะได้เปรียบในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน” มาร์ค โบว์ลิ่ง กล่าว
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีพ.ศ.2556 ค่อนข้างมีความท้าทายมากกว่าปีที่ผ่านมา โดนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% อีกทั้งยังโครงการคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการที่มีแผนจะเปิดขายในปีพ.ศ.2556 และอีกเป็นจำนวนมากที่มีกำหนดแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งน่าจะสร้างความตื่นตัวให้กับผู้ซื้อเป็นอย่างดี” มาร์ค โบว์ลิ่ง กล่าวเพิ่มเติม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : บริษัท ทริปเปิล เอท ไอเดียส์ จำกัด
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด
พัทธ์ธีรา สุกใส (แตงโม) โทร 02 664 0888 E-Mail: [email protected]