ไทย-จอร์แดนเตรียมตั้งคณะทำงานร่างเอ็มโอยูร่วมมือถ่ายทอดเทคโนโลยีฝนหลวงในจอร์แดน ด้านทูตไทยในจอร์แดนชี้จอร์แดนเป็นฐานการตลาดขยายสินค้าไทยไปยังกลุ่มอเมริกาเหนือได้

ศุกร์ ๒๙ มีนาคม ๒๐๑๓ ๑๒:๑๕
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ Mr.Samer I. Ashour อธิบดีสำนักพระราชวังจอร์แดนด้านเศรษฐกิจและการค้า พร้อมด้วยนายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน และเจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยาจอร์แดน ว่า การหารือร่วมกันระหว่างไทยกับจอร์แดนในครั้งนี้ ประเด็นสำคัญ คือความร่วมมือในด้านการถ่ายทอดเทคโนโยลยีการทำฝนหลวง ซึ่งนับเป็นโครงการที่เป็นมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจอร์แดน ที่ได้ทรงมีพระบรมราชานุญาตในการถ่ายทอดเทคโนโลยีฝนหลวงให้แก่ประเทศจอร์แดน ตามที่ประเทศจอร์แดนได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับโครงการฝนหลวงของไทย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับภาวะขาดแคลนฝนในจอร์แดน และได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาศึกษาดูงานรวมถึงสำรวจความเป็นไปได้ในการทำฝนหลวงทีประเทศจอร์แดนมาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ลำดับขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อจากนี้ คือ ทั้งสองประเทศจะมีการตั้งคณะทำงานระหว่าง เพื่อจัดทำร่างบันทึกความตกลงในเรื่องฝนหลวงให้แล้วเสร็จก่อนที่พระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 จะเยือนประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2556 และลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ขณะเดียวกัน เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงมีความพร้อมที่จะสามารถดำเนินการได้ในประเทศจอร์แดน ทางจอร์แดนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกลับไปวางแผนในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น งบประมาณ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมที่จะเริ่มปฏิบัติการฝนหลวงได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ก็ยินดีที่จะให้ทางจอร์แดนจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาฝึกอบรมการทำฝนหลวงกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในประเทศไทยคู่ขนานกันไปด้วย

ด้านนายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เปิดเผยว่า นอกจากเทคโนโลยีฝนหลวงที่ทางจอร์แดนแสดงความสนใจซึ่งเป็นโครงการที่แสดงถึงความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศแล้ว ทางจอร์แดนยังสนใจเกี่ยวกับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และการปลูกหญ้าแฝกเพื่อแก้ไขปัญหาดินในประเทศจอร์แดนที่เป็นส่วนใหญ่เป็นดินทรายไม่สามารถทำการเกษตรด้วย รวมถึงความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยว ด้านการสาธารณสุข และด้านการศึกษา ซึ่งคงจะต้องมีการจัดทำร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างสองประเทศด้วยเช่นกัน

สำหรับในด้านการค้าการลงทุนที่น่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนไทยที่จะสามารถเข้าไปลงทุนในประเทศจอร์แดนที่จะเป็นฐานการตลาดในการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เสียภาษีเพียง 5 % หรือการเปิดเสรีการค้ากับหลายประเทศในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนนาดา สหภาพยุโรป และตุรกีที่มีภาษีเป็นศูนย์มาตั้งแต่ปี 2010 ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนไทยเป็นอย่างมากที่จะใช้โอกาสนี้ไปลงทุนในประเทศจอร์แดนเพื่อขยายขีดความสามารถในการส่งออกของประเทศไทยได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๐๐ ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๒:๐๐ กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๑:๒๐ แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๑:๐๐ ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๑:๐๗ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๑:๓๐ EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๑:๓๓ ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๑:๐๙ ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๑:๐๗ DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๑:๓๑ โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก