มีจำนวนซัพพลายเกิดขึ้นมากมายในตลาดคอนโดมิเนียมหัวหินช่วงปี 2555 โดยมีชาวไทยเป็นผู้ซื้อที่ครองตลาดคิดเป็น 75% ของผู้ซื้อทั้งหมด ซึ่งตรงกันข้ามกับตลาดที่พัทยาที่ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมักประกอบไปด้วยชาวไทย ชาวต่างชาติและบุคคลที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัดชลบุรี
หัวหินมีแหล่งช็อปปิ้งและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้บริการผู้เยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าและโครงการค้าปลีก เช่น ซานโตรินี ซิคาด้า และเพลินวาน และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น สวนน้ำแบล็คเมาเท่น และตลาดน้ำสามพันนาม
แนวโน้มซัพพลาย
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยได้เก็บรวบรวมข้อมูลในส่วนของซัพพลายของคอนโดมิเนียมระหว่างปี 2546 — 2555 ซัพพลายสะสมส่วนมากจะอยู่ในชะอำ หัวหิน เขาตะเกียบ เขาเต่า และพื้นที่ภายในตัวเมือง ตัวเลขดังต่อไปนี้จะไม่รวมซัพพลายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่บริเวณเมืองปราณบุรี จำนวนซัพพลายสะสมของคอนโดมิเนียมในหัวหินในช่วงท้ายของปี 2555 อยู่ที่ 18,102 ยูนิตซึ่งเพิ่มขึ้น 32.5% จากปลายปี 2554 ซัพพลายใหม่ของคอนโดมิเนียมได้พุ่งขึ้นสูงด้วยการเปิดตัวของยูนิตใหม่ประมาณ 4,709 ยูนิต จาก 15 โครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2555 จากตัวเลขนี้มีจำนวนยูนิต 3,255 ยูนิตที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 และมียูนิตทั้งหมด 1,454ยูนิตที่ได้เข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี
ชะอำยังคงเป็นทำเลยอดนิยมในตลาดคอนโดมิเนียมที่หัวหิน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ที่มีมาแต่เดิมจากปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการพัฒนาของพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ที่มีสิ่งบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารและร้านค้าปลีกซึ่งได้เพิ่มความสะดวกสบายในพื้นที่สำหรับผู้อยู่อาศัยจำนวนซัพพลายที่เพิ่มขึ้นใหม่อย่างล้นหลามในบริเวณชะอำมีถึง 1,696 ยูนิตหรือ 36% ของจำนวนยูนิตที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดจาก 4 โครงการใหม่ที่ได้เข้าสู่ตลาดในปี 2555 โดยโครงการ AD Resort Hua Hin จัดว่าเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีจำนวนยูนิตทั้งหมดมากถึง 1,128 ยูนิตในบริเวณชะอำ
บริเวณที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นคือพื้นที่ในบริเวณตัวเมืองกับยูนิตใหม่ทั้งหมด 1,424 ยูนิตที่เปิดตัวในปี 2555 โครงการเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยเครือแสนสิริ ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่อยู่ที่ 1.5 ถึง 3.5 ล้านบาท แต่ว่าโครงการเหล่านี้ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากชายหาด ตามด้วยบริเวณทางตอนเหนือของหัวหินและเขาเต่าซึ่งคิดเป็น 18% และ 15% ของจำนวนยูนิตที่เปิดตัวใหม่ในปี 2555 ทั้งหมดตามลำดับ
แนวโน้มดีแมนด์
อัตราการเข้าอาศัยของคอนโดมิเนียมในหัวหินได้เพิ่มขึ้นจากปี 2553 กับยูนิตที่ขายได้ทั้งหมด 1,076 ยูนิต และในปี 2555 มียูนิตขายได้ทั้งหมด 1,344 ยูนิต ส่วนอัตราการเข้าอาศัยในปี 2555 นั้นยิ่งสูงขึ้ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้ทั้งหมด 2,879 ยูนิต
อัตราการเข้าอาศัยได้ลดลงจาก 72% ในปี 2553 มาอยู่ที่ 45% ในปี 2554 อันเนื่องมาจากซัพพลายของคอนโดมิเนียมที่ทะลักล้นตลาดกับยูนิตที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดราวๆ 6,000 ยูนิตในปี 2554 ผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทยชี้ให้เห็นว่าอัตราการเข้าอาศัยได้เพิ่มขึ้นเป็น 49% กับดีแมนด์ของคอนโดมิเนียมที่อยู่ที่ประมาณ 8,906 ยูนิตภายในปลายปีของปี 2555 ที่ผ่านมาอัตราการเข้าอาศัยในช่วงปีที่พีคสำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหินอยู่ที่ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ยูนิตต่อปี อย่างไรก็ตามอัตราการเข้าอาศัยในปี 2555 สูงกว่าอัตราการเข้าอาศัยในช่วงปีพี้คอย่างเห็นได้ชัด
มร.ข่าน กล่าวเพิ่มว่าผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในหัวหินสามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มเป้าหมาย: ชาวไทยซึ่งคิดเป็น 75% ของจำนวนผู้ซื้อในตลาดทั้งหมด ชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพมหานครและชาวต่างชาติที่เกษียณอายุ ซึ่งประกอบไปด้วยชาวสแกนดิเนเวีย ชาวรัสเซีย และชาวเยอรมันซึ่งทั้งหมดนี้คิดเป็น 25%ของผู้ซื้อที่เหลือในตลาดผู้ซื้อชาวไทยเป็นกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ในตลาดคอนโดมิเนียมที่หัวหินอันเนื่องมาจากว่าชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะบุคคลที่ร่ำรวยมักแสวงหาบ้านพักหลังที่สองหรือบ้านพักตากอากาศสำหรับวันหยุดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร หัวหินซึ่งห่างออกไปเพียง 200 กิโลเมตรหรือ 2.5 ชั่วโมงจากใจกลางกรุงเทพฯ จึงเป็นแหล่งยอดนิยมที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมหลากหลาและนอกจากนี้หาดทรายที่หัวหินก็มีความงดงาม
มากกว่าชายหาดที่พัทยา
อย่างไรก็ตาม มร.ข่าน ชี้ให้เห็นว่าในปัจจุบันสภาพของตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว มีบุคคลที่มีรายได้ปานกลางจากกรุงเทพมหานครเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในหัวหินไว้สำหรับเป็นบ้านพักในวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงทำให้คอนโดมิเนียมราคาถูกมียอดขายที่ค่อนข้างดี
แนวโน้มราคา
เนื่องจากว่าบริเวณตอนใต้ของหัวหินมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้พักอาศัยมากที่สุด สถิติราคาขายต่อของคอนโดมิเนียมในโซนนี้จึงสูงสุด ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ 137,853 บาทต่อตารางเมตรในช่วงปลายปี 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 6% เมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในบริเวณเขาตะเกียบมีราคาขายเฉลี่ยที่สูงที่สุดเป็นอันดับสอง ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่อยู่ที่ 120,050 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งลดลงมาเพียง 1% จากปีที่ผ่านมา เพราะโครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี 2555 ส่วนมากมักจะเป็นบัดเจทคอนโดมิเนียมและมีราคาต่ำกว่าราคาคอนโดมิเนียมเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดทางตอนเหนือของหัวหินอยู่อันดับที่สามด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ 103,798 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นมา 3% จากปีที่ผ่านมา ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรในเขาตะเกียบลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 74,595 บาทต่อตารางเมตรจนถึงปลายปี 2555
แนวโน้มในอนาคต
มร.ข่านคาดการณ์ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในหัวหินจะเติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อผู้พัฒนาโครงการและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของกรุงเทพมหานครที่อยู่ในตลาดหุ้น เข้ามาเปิดโครงการใหม่ในตลาดที่หัวหินในปีหน้า กลุ่มเป้าหมายของผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในตลาดที่หัวหินยังคงแคบอยู่ โดยส่วนมากมักเป็นชาวไทย ชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพมหานครและชาวต่างชาติที่เกษียณอายุ เมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเช่นภูเก็ตหรือพัทยาที่ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมักประกอบไปด้วยผู้ซื้อนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ สำหรับที่ดินสำหรับการพัฒนาในทำเลไพร์ม โดยเฉพาะทางตอนใต้ของหัวหินยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ ในขณะที่ราคาที่ดินยิ่งพุ่งสูงขึ้น เราจึงคาดว่าสภาวะของซัพพลายสำหรับคอนโดมิเนียมในหัวหินในอนาคตจะรวมกลุ่มกันอยู่ที่ชะอำและในตัวเมืองที่ซึ่งมีที่ดินให้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอยู่มากด้วยราคาที่ด้วยราคาที่ดินที่ถูกกว่าในโซนอื่นๆ
ผู้พัฒนาโครงการควรปรับให้ซัพพลายและดีแมนด์ในตลาดที่หัวหินมีความสมดุลหากว่ายังคงพัฒนาโครงการที่มียูนิตจำนวนมากต่อไปเรื่อยๆอาจทำให้ซัพพลายสูงเกินกว่าที่ดีแมนด์จะรับไหวซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของคอนโดมิเนียมดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ซัพพลายของคอนโดมิเนียมในหัวหินในปี 2555 ได้ชะลอตัวลงจากปี 2554 ด้วยจำนวนโครงการที่เปิดตัวใหม่ลดลงแต่อย่างไรก็ตามยังคงมีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้นในปี 2555 กับโครงการขนาดเล็กที่เน้นคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก