"ซีพีเอฟ เป็นต้นแบบในการค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่การพัฒนาพันธุ์สัตว์ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงในประเทศไทย การคิดค้นสูตรอาหารที่มีโภชนาการสำหรับสัตว์แต่ละประเภทในช่วงวัยต่างๆ การสรรหาวิธีการจัดการและการเลี้ยงสัตว์เพื่อลดผลกระทบจากธรรมชาติที่จะมีต่อการเจริญเติบโตของสัตว์ เช่น โรงเรือนระบบอีแวป หรือแม้แต่กระบวนการจัดการของเสียภายในฟาร์มเพื่อให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ไม่เป็นบ่อเกิดของปัญหาโลกร้อน ที่วันนี้ได้กลายเป็น ต้นแบบของการเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐาน และถูกถ่ายทอดสู่เกษตรกรไทยอย่างแพร่หลาย รวมถึงภาคเอกชนในธุรกิจเดียวกันที่นำไปเป็นต้นแบบดำเนินการ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีที่จะเกิดประโยชน์ต่อโลก ต่อประเทศและสิ่งแวดล้อมส่วนรวม" นายสมพรกล่าวและว่า
ขณะนี้ ซีพีเอฟได้เตรียมเปิดฟาร์มสุกรแม่พันธุ์แห่งใหม่ จำนวน 800 แม่ บนพื้นที่ 30 ไร่ใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่นอกจากจะเป็นฟาร์มรักษ์โลกตามมาตรฐานกรีนฟาร์มแล้ว ฟาร์มแห่งใหม่นี้จะดำเนินการเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรแบบคอกขังรวมควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (ESF) ตามแนวทาง ANIMAL WELFARE ที่สามารถควบคุมการให้อาหารแม่พันธุ์อย่างเพียงพอกับความต้องการโดยไม่จำเป็นต้องใช้ซองเช่นเดิม ซึ่งวิธีการนี้ช่วยให้แม่พันธุ์ไม่เครียด สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ตลอดจนมีภูมิต้านทานที่ดี
ซีพีเอฟได้ให้ความสำคัญกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ และมีการศึกษาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปีแล้ว และเริ่มทดลองดำเนินการในฟาร์มจอมทอง จ.เชียงใหม่ และ ฟาร์มกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร กระทั่งมั่นใจในระบบคอกขังรวม ซึ่งมีลักษณะการปล่อยแม่พันธุ์หลังผสมแล้วให้สามารถเดินได้อย่างอิสระ ระบบนี้จึงเป็นอีกเทคโนโลยีการเลี้ยงสุกรที่ซีพีเอฟจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องนับจากนี้เป็นต้นไป
สำหรับมาตรฐานกรีนฟาร์มตามมาตรฐานของซีพีเอฟนั้น เป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001 ) ระบบมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) ระบบมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยชีวะอนามัย และ สิ่งแวดล้อม (CPF SHE MS) ซึ่งล้วนมุ่งเน้นดำเนินการตามแนวทางที่ยั่งยืน ส่งเสริมการอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างเป็นสุข โดยกระบวนการทำงานของกรีนฟาร์มจะมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยระบบก๊าซชีวภาพ (BIOGAS) 2.การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการปลูกต้นไม้ และ 3.การลดกลิ่น ด้วยระบบการฟอกอากาศ โดย ระบบไบโอแก๊ส เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้มากถึง 171,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และให้ผลพลอยได้เป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ภายในฟาร์ม ส่วนระบบฟอกอากาศท้ายโรงเรือน สามารถลดกลิ่นเหม็นและกลิ่นก๊าซแอมโมเนียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อประกอบกับการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ฟาร์มก็ยิ่งสนับสนุนการดูดซับกลิ่นและคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว
ปัจจุบัน ซีพีเอฟได้ผลักดันให้ฟาร์มสุกรของบริษัททั้ง 52 แห่ง เข้าสู่มาตรฐานกรีนฟาร์มครบ 100% พร้อมทั้งสนับสนุนให้ฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสุกรแก่เกษตรกรรายย่อยเข้าสู่มาตรฐานกรีนฟาร์มแล้วกว่า 70% คาดว่าจะครบทั้ง 100% ได้ภายในเดือนมิถุนายนศกนี้
ทั้งนี้ ผลผลิตสุกรที่ได้มาจากฟาร์มมาตรฐานของซีพีเอฟทุกแห่งจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงคุณภาพปลอดภัย ปลอดสาร ถูกสุขอนามัย ภายใต้แบรด์ซีพี ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ และสามารถซื้อหาได้อย่างสะดวก จากร้าน ซีพีเฟรช มาร์ท และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ