สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา09.00 น.

พฤหัส ๐๔ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๐:๓๕
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,569 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,570 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.36 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 21,850 บาท กับ 21,950 บาท และกลับมาปิดที่ 21,800 บาท กับ 21,900 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 5,393 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 13,754 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 7.8 % GFJ13 ปิด 21,930 บาท และ GFM13 ปิด 22,030 บาท GF10J13 ปิดที่ 21,930 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,020 บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 22.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1553.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver ลดลง 45.1 เซ็นต์ ปิดที่ 26.797 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,206.22 ตัน (ขายออก 2.7 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ลดลง 2.7เซ็นต์ ปิดที่ 94.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ปิดลดลง 111.66 จุด ปิดที่ 14,550.35 จุด

ข่าวที่สำคัญ

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% เนื่องจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงหดตัวลง หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ราคาทองคำได้แตะระดับต่ำกว่า 1,550 เหรียญในช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย. เนื่องจากสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น กดดันความดึงดูดสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ ส่งผลให้ทองคำล้มเหลวที่จะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายนร่วงลง 22.4 ดอลลาร์ โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,553.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการที่กลุ่มกองทุน ETF ทำการเทขายสัญญาทองคำออกมาอย่างหนัก โดย ETFลดการถือครองทองคำมาอยู่ที่ระดับ 38.9 ล้านออนซ์ จากเดิมในวันที่ 1 เมษายนถือครองที่ระดับ 39.1 ล้านออนซ์

เมื่อวานนี้ SPDR ได้ลดการถือครองทองคำลง 2.7 ตัน จากเดิม 1,208.92 ตัน สู่ระดับ 1,206.22 ตัน เรียกได้ว่า SPDR ได้ลดการถือครองทองคำตลอด 3 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 1 — 3 เมษายนนี้ รวมทั้งสิ้น 15.04 ตัน

สรุปได้ว่า SPDR ลดการถือครองทองคำลงนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้คิดเป็น 7% โดยมีการขายไปแล้วทั้งสิ้น 144.6 ตัน

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงนั้น เกิดจากแรงเทขายจากกลุ่มกองทุน ETF และ SPDR ได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ทำการเทขายทองคำตาม

นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของไซปรัส หลังจากที่นางคริสทีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ไอเอ็มเอฟจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 1 พันล้านยูโร (1.28 พันล้านดอลลาร์) แก่ไซปรัส พร้อมกับแสดงความหวังว่าบอร์ดบริหารไอเอ็มเอฟจะอนุมัติเงินช่วยเหลือดังกล่าวในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้

ล่าสุด Credit Suisse และ Societe Generale ได้ลดการคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้และปีหน้า โดยคาดว่าราคาทองคำเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,580 เหรียญในปีนี้ และ 1,500 เหรียญในปีหน้า

ส่วน Societe Generale (โซเชียเต้ เจเนอรัล) คาดว่าราคาเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ 1,500 เหรียญ และราคาอาจจะลงไปที่ 1,375 เหรียญได้ภายในสิ้นปีนี้ และยังคาดว่าราคาจะปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,550 เหรียญในระยะสั้น ซึ่งหากหลุดแนวรับ 1,520 เหรียญ จะทำให้ราคาลงไปที่ 1,500 และ 1,450 เหรียญ

สำหรับสถานการณ์ในไซปรัส ขณะนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการแห่กันถอนเงิน หลังจากมีการเก็บภาษีผู้ฝากรายใหญ่ รวมไปถึงธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ไซปรัสถูกสั่งปิด เพื่อรักษาจำนวนเงินการรับความช่วยเหลือจากกลุ่มทรอยก้าเป็นจำนวน 1 หมื่นล้านยูโร แต่หลังจากที่ธนาคารไซปรัสได้เปิดทำการตามปกติ ก็ไม่พบความวุ่นวายใดเกิดขึ้น

Societe Generale ยังกล่าวว่า เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น ทำให้เพิ่มความดึงดูดสินทรัพย์เสี่ยง ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งทองคำไม่สามารถให้ได้ และได้ลดความต้องการทองคำแท่งใหม่ๆ ในช่วงราคาต่ำกว่า 1,600 เหรียญ โดยเฉพาะอินเดีย

ในวันนี้นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของ BOJ การแถลงการณ์ของ ECB การแถลงการณ์ของเบอนันเก้ ประธานเฟด และตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐ

กลุ่มเทรดเดอร์มองว่า การแถลงการณ์ของประธานเฟดในคืนนี้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก โดยคาดการณ์ว่าประธานเฟดจะยังพูดถึงภาพรวมของตลาด

สำหรับการแถลงการณ์ของอีซีบีในคืนนี้นั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า อีซีบีจะแถลงถึงมาตรการใหม่เพื่อสร้างเสถียรภาพแก่ภาคธนาคารต่างๆในยูโรโซน นอกจากนี้อัตราคนว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงของยูโรโซน อาจทำให้อีซีบีทำการปรับลดดอกเบี้ยลงได้

คาดว่าวันนี้ตัวเลขคนว่างงานของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในช่วงเวลาประมาณ 19.30น. ผลจะออกมาดีขึ้น โดยมีคนว่างงานลดลง 5,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ระดับ 352,000 ตำแหน่ง

ปัจจัยสำคัญในวันศุกร์นี้ คือการประกาศตัวเลข Non-farm employment change ของสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าผลจะออกมาแย่ลง ประมาณ 38,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ระดับ 198,000 ตำแหน่ง

ค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1.2846 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับเดิม 1.2814 ดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร

ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนพากันเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดจีน ฮ่องกง และไต้หวันจะปิดทำการในวันนี้และวันศุกร์ เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง ซึ่งอาจทำให้ขาดแรงหนุนด้านการเข้าซื้อทองคำแท่งไป

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวาน

-ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 237 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 203 K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 198K

-ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 56.0 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 55.9 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 54.4

-Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.3 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.8 M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 2.7 M

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

-Unemployment claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 357 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 352 K

วิเคราะห์ราคาทองคำ

Gold — ราคาทองคำยังถูกกดดันด้วยแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง และราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงตลาดเอเชีย โดดดีดขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,576 เหรียญโดยประมาณ หลังจากนั้นในตลาด COMEX มีแรงเทขายต่อเนื่อง จนราคาหลุดระดับ 1,550 เหรียญ ในช่วงปลายตลาด COMEX และในตลาดฮ่องกงที่เปิดเมื่อเช้านี้ก็ลดลงกดดันราคาต่อเนื่องให้อยู่ระดับต่ำกว่า 1,550 เหรียญลงมา

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อวานไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อราคาทองคำ ในขณะที่ราคาทองคำยังอยู่แนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้ และการที่ราคาหลุดระดับแนวรับสำคัญที่ 1,550 เหรียญ ถือว่าเป็นสัญญาณค่อนข้างอันตรายที่ราคาทองคำอาจจะหลุดลงต่อเนื่องไปที่ระดับ 1,500 เหรียญได้ ยังคงแนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์การทำกำไรในทิศทางขาลง และพยายามปิด Position ที่เป็น Long Position ออกไปทั้งหมด พยายามใช้คำสั่ง stop loss เมื่อราคาผิดทิศทางและทำกำไรในทิศทางขาลง

กลยุทธ์การลงทุนทองคำวันนี้

คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,530 -1,560 เหรียญ ยังแนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางแนวโน้มขาลง โดยเปิด Short Position ก่อน

- สำหรับนักลงทุนที่ถือ Long Position

แนะนำให้ปิดสถานะ Long และให้ทำ stop loss ออกไปจากตลาด เพื่อที่จะได้ทำ Short Position บริเวณแนวต้านด้านบน

- สำหรับนักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำกำรเป็นช่วงๆ โดยแนะนำให้ทำการ Short Position เป็นระยะๆบริเวณแนวต้าน

Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,850 บาท

Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,950 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ