RAM Ratings ชี้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารของไทยอยู่ในภาวะที่ดีเมื่อเทียบธนาคารอื่นๆในภูมิภาค

พุธ ๑๐ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๐:๓๙
หว่อง หยิน ชิง หัวหน้าฝ่ายจัดอันดับสถาบันการเงินของ RAM Rating Services Berhad เปิดเผยในรายงานการวิจัยของบริษัท เรื่อง Leading ASEAN Banks ว่า คุณภาพของสินทรัพย์ในระบบการธนาคารของไทยเมื่อปี 2555 อยู่ในภาวะที่ดี แม้ว่าได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี จนส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ รายงานดังกล่าวนำเสนอธนาคารที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในกลุ่มอาเซียนจำนวน 20 ธนาคาร ซึ่งรวมถึงธนาคารรายใหญ่ของไทย 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)

โซเฟีย ลี หัวหน้าฝ่ายจัดอันดับสถาบันการเงิน กล่าวว่า การปล่อยเงินกู้ในระบบการธนาคารของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2555 โดยมีอัตราการขยายตัว 13.7% นอกจากการอนุมัติเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้ว การอนุมัติเงินกู้ในภาคครัวยังขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นเพราะได้รับแรงผลักดันจากมาตรการกระตุ้นของทางรัฐบาลไทย เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการใช้นโยบายจูงใจด้านภาษีสำหรับผู้ซื้อรถคันแรก ส่วนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศก็ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อปีที่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 6.6% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวลงก็ตาม

การผ่อนคลายเกณฑ์การประเมินหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เป็นการชั่วคราวของหน่วยงานกำกับดูแล ช่วยให้ NPL ในระบบการธนาคารของไทยอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ สัดส่วน NPL ของธนาคารอยู่ที่ 2.3% ในช่วงสิ้นปีพ.ศ. 2555 (ช่วงสิ้นปีพ.ศ. 2554 อยู่ที่ 2.7%) การเพิ่มขึ้นของ NPL ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำท่วมในไทยนั้นอาจจะมีอยู่ เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายของธนาคารแห่งประเทศไทยใกล้จะสิ้นสุดลง แต่เราไม่คาดว่าจะสร้างแรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์ในระบบธนาคาร เรามองว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมสามารถกลับมาดำเนินงานได้แล้ว

หยิน ชิง กล่าวว่า "เมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารในภูมิภาคแล้ว ระบบการธนาคารของไทยยังคงมีสินทรัพย์ที่ยึดได้จากการผิดนัดชำระหนี้และเงินกู้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างแล้ว อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งเงินกู้ที่สืบเนื่องมาจากช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3-8% ของยอดเงินกู้โดยรวมและสินทรัพย์ที่ยึดได้จากการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารของไทยทั้ง 6 แห่งที่มีชื่ออยู่ในรายงานฉบับนี้ ธนาคารที่มีอัตราการปล่อยกู้แก่บริษัท และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ที่สูงขึ้น ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกร

“ศักยภาพในการทำกำไรของภาคการธนาคารของไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยผลตอบแทนเฉลี่ยของสินทรัพย์อยู่ที่ 1.7% ธนาคารที่มีการลงทุนมากขึ้นในธุรกิจรีเทล แบงกิ้ง และธุรกิจ SME ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทยนั้น มีผลกำไรที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การระดมทุนในระบบการธนาคารของไทยยังฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน สัดส่วนเงินกู้ต่อเงินฝากในภาคการธนาคารลดลงมาอยู่ที่ระดับ 96% ณ สิ้นปีพ.ศ. 2555 จากระดับกว่า 100% ในปีพ.ศ. 2554 ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยได้ใช้ข้อกำหนดด้านเงินทุนที่มีความเข้มงวดมากกว่าที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านการธนาคารของคณะกรรมการบาเซิลได้แนะนำไว้ โดยมีการกำหนดว่าธนาคารของไทยจะต้องมีการสำรองเงินทุนขั้นที่ 1 ขั้นต่ำในสัดส่วน 4.5% มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ปีพ.ศ. 2556 ซึ่งสูงกว่าที่คณะกรรมการบาเซิลแนะนำไว้ 1% ส่วนธนาคารของไทยที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการตามเกณฑ์ดังกล่าวได้ เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเงินทุน” โซเฟียกล่าว

กรุณาคลิก เพื่อดาวน์โหลดรายงาน Leading ASEAN Banks ได้ที่

http://www.ram.com.my/docs/publication/Leading520ASEAN%20Banks%20%28final%29.pdf

การจัดอันดับความน่าเชื่อถือนี้ ไม่ใช่การแนะนำให้ซื้อ ขาย หรือถือสินทรัพย์ และไม่ใช่การแสดงความเห็นเกี่ยวกับราคาตลาดของหุ้นนั้นๆ หรือความเหมาะสมของนักลงทุน หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบบัญชีที่ดำเนินการโดย RAM Ratings

RAM Ratings ได้รับค่าตอบแทนจากบริการจัดอันดับ โดยปกติจะได้รับจากผู้ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ และบางครั้งได้รับจากบุคคลที่สามซึ่งมีส่วนร่วมกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้ออกหลักทรัพย์ ผู้ค้ำประกัน ผู้มีภาระผูกพัน ผู้จำหน่ายหลักทรัพย์ ฯลฯ อย่างไรก็ดี การได้รับค่าตอบแทนเหล่านี้ไม่มีผลต่อการให้ความเห็นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือหรือกระบวนการวิเคราะห์อื่นๆของ RAM Ratings ทั้งนี้ RAM Ratings มีความตั้งใจที่จะรักษาความเป็นกลาง ความซื่อสัตย์ และความเป็นอิสระของการจัดอันดับในทุกกรณี RAM Ratings จะพูดคุยเรื่องค่าธรรมเนียมในการจัดอันดับกับลูกค้าก่อนให้ความเห็นในการจัดอันดับ RAM Ratings มีสิทธิ์เผยแพร่ผลการจัดอันดับแม้ไม่ได้รับค่าตอบแทน ยกเว้นจากผู้ลงทะเบียนรับเอกสารเผยแพร่จากบริษัท

ทั้งนี้ ข้อความข้างต้นใช้กับบทวิเคราะห์และบทวิจารณ์เกี่ยวกับการจัดอันดับอื่นๆของ RAM Ratings ด้วยเช่นกัน

เผยแพร่โดย RAM Rating Services Berhad

(C) สงวนลิขสิทธิ์ 2556 โดย RAM Rating Services Berhad

แหล่งข่าว: RAM Rating Services Berhad

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

สำหรับสื่อมวลชน

ชื่อ: โซเฟีย ลี (Sophia Lee)

โทร: (603) 7628 1189

อีเมล: [email protected]

AsiaNet 52675

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version