นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายใต้นโยบายการสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการด้านพลังงานเพื่อความยั่งยืนของประเทศ สนพ.ได้ต่อยอดแนวทางการประหยัดพลังงานโดยร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดทำโครงการ “อุตสาหกรรมประหยัดไฟ ช่วยไทยลดใช้พลังงาน (Change for Save)”เจาะกลุ่มภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าสูงสุด คิดเป็น 40% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ
โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายกระตุ้นให้กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มนำร่องในการเปลี่ยนอุปกรณ์ส่องสว่าง ภายในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศได้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน หรือ หลอดแอลอีดีแทนการใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานมากถึง50% โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนหลอดประหยัดพลังงานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 100 ล้านหลอด หากสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมลดการใช้พลังงานแสงสว่างจาก 4,800 MW คงเหลือ 2,400 MWคิดเป็นมูลค่ากว่า 72,500 ล้านบาทต่อปีหรือเปรียบเทียบเป็นลดการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ได้ประมาณ 4 เขื่อน
ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สนพ. เตรียมงบ 300 ล้านบาท ในการสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยสนพ.เป็นผู้ให้เงินสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมตามผลประหยัดจริง 1บาท ต่อ1หน่วยการลดพลังงาน โดยมีเป้าหมายการสนับสนุน 300 ล้านบาท ต่อ 300 ล้านหน่วยการลดพลังงาน โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ).จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบการประหยัดพลังงาน
อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการปลื้มโรงงานร่วมนำร่องเปลี่ยน1ล้านหลอด
นายประทวน สิทธิอำนวยเดช อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดสมุทรปราการมีโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัด ไม่ต่ำกว่า 6,000 โรงงาน แบ่งเป็น โรงงานขนาดใหญ่ 15% โรงงานขนาดกลาง 45% และโรงงานขนาดเล็ก 55% โดยในเบื้องต้นอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการได้ขอความร่วมมือในการเปลี่ยนใช้หลอดประหยัดพลังงานแอลอีดีไปยังโรงงานขนาดใหญ่ ที่ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 ดวง เป็นหลัก ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 200 โรงงานใหญ่อันดับต้นๆในการนำร่องเปลี่ยนใช้หลอดประหยัดพลังงานดังกล่าว รวมแล้วมีการเปลี่ยนจากการใช้หลอดฟลูออเรสเซนท์เป็นหลอดแอลอีดีมากกว่า 1 ล้านหลอด
“หลังจากที่ 200 โรงงานขนาดใหญ่พร้อมใจเปลี่ยนใช้หลอดแอลอีดีนำร่องแล้ว หลังจากนี้จะเร่งประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ในการลงทุนเปลี่ยนใช้หลอด ซึ่งถือเป็นการลงทุนในระยะยาวที่คุ้มค่า และเห็นผลชัดเจนมาก โดยเฉพาะในโรงงานขนาดใหญ่ ทั้งในแง่ค่าใช้จ่ายการช่วยชาติ และช่วยโลกประหยัดพลังงานในระยะยาว เพื่อขยายผลไปสู่การรณรงค์ในโรงงานขนาดกลางและเล็กต่อเนื่อง”นายประทวนกล่าว
ผู้ว่าฯสมุทรปราการเตรียมขยายผลสู่ครัวเรือน
ด้านนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่าการที่กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มต้นๆในการนำร่องเพื่อดูแลเรื่องพลังงาน เชื่อว่าจะสร้างผลในการปฏิบัติที่ชัดเจน และจะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของคนไทยในการใส่ใจ พลังงาน ทั้งโรงงานในจังหวัดอื่นๆ และประชาชนทั่วไป ซึ่งหลังจากนี้จังหวัดก็เตรียมขยายผลโครงการไปยังกลุ่มครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง
“แม้ภาพของจังหวัดสมุทรปราการจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่หลายคนมองว่าเป็นปัญหา แต่โครงการครั้งนี้จะทำให้ประชาชนมองเห็นว่าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีจิตสำนึกเรื่องการใช้พลังงานและพร้อมให้ความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์พลังงาน ซึ่งทำให้จังหวัดสมุทรปราการจะเป็นต้นแบบปฏิบัติซึ่งพร้อมจะให้คำแนะนำกับประชากรทุกภาคส่วนให้กับหลายๆจังหวัดทั่วประเทศต่อไป” นายคณิตกล่าว