นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมพิธีรดน้ำขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ ประจำปี 2556 ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารบี ศูนย์เอเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ โดยมีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน นำเหล่าข้าราชการเข้ารดน้ำขอพร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ในโอกาสนี้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวสรุปสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในช่วงที่ประเทศเมียนมาร์หยุดซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซ ในระหว่างวันที่ 5 เม.ย.-12 เม.ย. ล่าสุดทุกฝ่ายสามารถดูแลสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี และวันนี้เรามีปริมาณไฟสำรองเพียงพอ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาไฟตก ไฟดับอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลรณรงค์ประหยัดพลังงานนั้นเพื่อให้แน่ใจว่า ในช่วงที่ประเทศเมียนมาร์ปิดซ่อมท่อส่งก๊าซเราจะมีพลังงานสำรองเพียงพอ และถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้รณรงค์ช่วยกันประหยัดพลังงานซึ่งไม่เพียงแต่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยกันประหยัดพลังงานต่อไป
นอกจากนั้น นายพงษ์ศักดิ์ ได้ชี้แจงถึงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนผ่านสื่อต่างๆว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลด้านพลังงานผ่านสื่อหลายช่องทาง ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทางกระทรวงพลังงานจึงขอชี้แจงใน 4 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นที่หนึ่งประเทศไทยไม่ร่ำรวยพลังงาน ซึ่งความจริงแล้วเรามีน้ำมันสำรอง อีกเพียง 8 ปีเท่านั้น และหากเทียบกับประเทศที่ร่ำรวยพลังงานพบว่ามีพลังงานสำรองมากกว่า 75 ถึงกว่า 250 ปี
ประเด็นที่สองประเทศไทยไม่ได้ผลิตน้ำมันดิบจำนวนมหาศาล เนื่องจากประเทศไทยผลิตน้ำมันดิบรวมคอนเดนเสทได้เพียงวันละ 240,000 บาร์เรลเท่านั้น และประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบเป็นหลัก ซึ่งหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว มีน้ำมันดิบที่ผลิตเอง 15% และนำเข้า 85%
ประเด็นที่สามประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 135,000-150,000 บาร์เรลต่อวัน แต่มีความต้องการใช้ในประเทศทุกกิจกรรมประมาณ 930,000-1,010,000 บาร์เรลต่อวัน ดังนั้นจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศเฉลี่ย 800,000-860,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศไทยมีเพียงวันละ 40,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น
และประเด็นที่สี่ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคาขายปลีกกับต่างประเทศ โดยปรับตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยนและหน่วยปริมาณน้ำมันเป็นบาทต่อลิตรแล้ว พบว่าราคาขายปลีกน้ำมันของประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าหลายๆประเทศ เช่น กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ ฮ่องกง รวมถึงกลุ่มประเทศในยุโรป
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า การชี้แจงดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้ ความเข้าใจถึงสถานการณ์พลังงานในประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งทางกระทรวงพลังงานมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา และรักษาแหล่งพลังงานประกอบกับการให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามในโอกาสวันปีใหม่ไทยนี้ขออวยพรให้ประชาชนมีความสุข เดินทางอย่างปลอดภัยและและร่วมกันประหยัดไฟใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าต่อไป