สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

พฤหัส ๑๑ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๐:๓๗
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,587 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,569 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.02 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 21,700 บาท กับ 21,800 บาท และกลับมาปิดที่ 21,650 บาท กับ 21,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,852 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,457 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1% แบบ 10 บาท ลดลง 5 % GFJ13 ปิด 21,680 บาท และ GFM13 ปิด 21,780 บาท GF10J13 ปิดที่ 21,670 บาท GF10M13 ปิดที่ 21,770 บาท

ราคาปิดตลาดเมืองนอกของเมื่อวานนี้ สัญญา Comex ปิดลดลง 27.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,558.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver ปิดลดลง 22 เซ็นต์ ปิดที่ 27.65 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,183.53 ตัน (ขายออก 16.85 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 44 เซ็นต์ ปิดที่ 94.64 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 128.78 จุด ปิดที่ 14,802.24 จุด

ข่าวที่สำคัญ

ราคาทองคำในรูปของดอลลาร์ได้ปรับตัวลดลง 1.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง ไปทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 1,556 เหรียญ จากที่เฟดได้ส่งสัญญาณว่ากำลังเข้าใกล้การสิ้นสุดการใช้มาตรการ QE และไซปรัสมีแผนที่จะขายทองคำสำรองเพื่อเพิ่มเงินทุน

เกิด Panic Sell (การเทขายทองคำอย่างหนัก) จนราคามาอยู่ใกล้บริเวณ 1,550 เหรียญ หลังจากที่มีรายงานจากคณะกรรมาธิการยุโรปแสดงว่า ไซปรัสมีแผนที่จะขายทองคำ 400 ล้านยูโร หรือ 523 ล้านดอลลาร์ออกจากทุนสำรอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินทุนช่วยเหลือ ซึ่งอาจจะเป็นการเทขายทองที่มากที่สุดจากประเทศในยูโรโซนในรอบ 4 ปี

จากนั้นราคาได้ดีดตัวขึ้นขึ้นจากจุดต่ำสุด เนื่องจากความกังวลว่าส่วนของการขายของภาครัฐจะได้ลดลง โดยกลุ่มธนาคารกลางได้กลายมาเป็นฝั่งผู้ซื้อโดยสุทธิตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งมีประเทศกลุ่มเกิดใหม่มากขึ้นที่ได้เพิ่มทองคำเป็นทุนสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยง

กฎของการขายทองคำของธนาคารกลางครั้งที่ 3 (CBGA3) ได้จำกัดการเทขายทองคำของธนาคารกลางในยูโรโซนว่าจะขายได้จำนวนเท่าใดเพื่อพอกับความจำเป็นทางการเงิน แต่นักลงทุนได้มีความกังวลว่าประเทศที่เป็นหนี้อื่นๆ อาจจะเริ่มเทขายทองคำตามบ้าง

อย่างไรก็ตาม Macquarie Metals (แมคควอรี่ เมทัล) ได้กล่าวว่า จำนวนที่ขาย 10 ตันนั้น เป็นจำนวนที่ไม่มาก และเราก็ได้เห็นจากการเทขายของกองทุน ETF โดยเฉลี่ยออกมาทุกสัปดาห์ในปีนี้

คำแถลงของ FOMC ได้รั่วไหลออกมาก่อนที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งแสดงถึงความเห็นที่แบ่งแยกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าซื้อพันธบัตร โดยมีสมาชิกคนหนึ่งต้องการที่จะชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างทันที ขณะที่สมาชิกอีก 2-3 คน ต้องการให้ใช้มาตรการไปจนถึงกลางปี ส่วนที่เหลือจำนวนหลายคนคิดว่า หากตัวเลขภาคแรงงานฟื้นตัวตามคาด การเข้าซื้ออาจจะชะลอลงในปลายปีนี้ และหยุดลงก่อนปี 2014

มีเพียง 2 คน ที่แสดงความเห็นว่าการเข้าซื้ออาจจะคงไว้ในอัตราเดิมอย่างน้อยจนถึงปีหน้า

ธนาคารต่างๆ รวมถึง Citigroup Goldman Sachs สมาชิกในรัฐสภา และกลุ่มนักลงทุนได้รับอีเมล์เกี่ยวกับข้อมูลของการแถลงของสมาชิกเฟด 19 ชม. ก่อนการแถลงต่อสื่อโดยบังเอิญ ซึ่งความผิดพลาดนี้ถูกค้นพบในภายหลัง

Commerzbank (คอมเมิรซแบงค์) กล่าวว่า การประชุมเฟด 2 ครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ราคาเกิดความผันผวนเพิ่มขึ้น และนักลงทุนจะจับตาถึงสัญญาณใหม่ๆที่ QE3 อาจจะถูกหยุดใช้ หรือชะลอการเข้าซื้อลง อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขภาคแรงงานที่แย่อย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว ก็จะทำให้การหยุดใช้มาตรการก่อนที่ควร น่าจะเป็นไปได้ลดลง

SPDR เทขายทองคำเมื่อคืนนี้ 16.84 ตัน จากระดับ 1,200.37 ตัน สู่ระดับ 1,183.53 ตัน

FastMarkets (ฟาสมาร์เก็ต) กล่าวว่า ความจริงแล้ว คุโรดะได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเกินกว่าที่ตลาดคาดทุกครั้ง ตั้งแต่ที่เขาได้รับการอนุมัติให้เป็นผู้ว่าบีโอเจ ดูเหมือนว่าความเสี่ยงจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดได้เกิดขึ้น ทำให้ราคาทองคำในรูปค่าเงินเยนมีช่วงให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายคุโรดะกล่าวว่า บีโอเจได้ใช้มาตรการทาวการเงินที่เป็นไปได้และที่จำเป็นทั้งหมดในตอนนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2%

หลังจากหลุดแนวรับที่ระดับ 1,575 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักลงไปทำจุดต่ำสุดก่อนหน้านี้ที่ 1,557 เหรียญ จากการที่นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs ได้กล่าวชี้แนะให้ลูกค้าทำการ Short ในทองคำต่อไป โดยมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ 1,450 เหรียญ ในช่วงสิ้นปี 2013 และราคาเป้าหมายปลายปี 2014 อยู่ที่ 1,270 เหรียญ

Goldman Sach ได้ลดการคาดการณ์ราคาเป็นครั้งที่ 2 ภายในเวลาน้อยกว่า 2 เดือน โดยลดราคาเฉลี่ยปี 2013 ไปที่ 1,545 เหรียญจาก 1,610 เหรียญ และลดราคาเฉลี่ยปี 2014 ไปที่ 1,350 เหรียญจาก 1,490 เหรียญ

ข้อมูลจาก Reuters แสดงถึงปริมาณการซื้อขายทองคำกว่า 20% อยู่ในช่วงที่ราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน

S&P ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากสู่ระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากการเติบโตของจีนและญี่ปุ่นได้ย้ำถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี ขณะที่ราคาพันธบัตรปรับตัวลงไปพร้อมกับทองคำ หลังเฟดส่งสัญญาณถึงการสิ้นสุดมาตรการ QE

นายโอบามาได้ยื่นเสนองบประมาณปี 2014 จำนวน 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ต่อรัฐสภาเมื่อคืนนี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มรายได้ทางภาษีและชะลอการเติบโตของผู้รับประกันสังคม โดยมีจุดประสงค์ให้มีการหารือประเด็นการตัดลดงบประมาณอีกครั้ง ซึ่งแผนนี้ได้ถูกเสนอเพื่อลดผลกระทบจาก Sequester โดยมีการตัดลดการขาดดุล 1.8 ล้านล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นสำหรับ 10 ปี

รายงาน Obama Budget

1) คาดเศรษฐกิจสหรัฐโต 3.2% ในปี 2014 จากเดิมคาดการณ์ในเดือนกรกฎาคมไว้ที่ 3.5%

2) คาดเศรษฐกิจสหรัฐโต 2.3% ในปี 2013 จากเดิมคาดการณ์ในเดือนกรกฎาคมไว้ที่ 2.7%

นางคริสติน ลาการ์ด ผอ.ไอเอ็มเอฟ กล่าวเศรษฐกิจทั่วโลกจะเติบโตปานกลางในปี 2013 และธนาคารกลางต่างๆ จะทำการกระตุ้นการเงินต่อไป

นางคริสตินยังได้กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้มีความเสี่ยงลดลงกว่าในช่วง 6 เดือนที่แล้ว แต่ความเสี่ยงทางการเงินที่ลดลง ไม่ได้หมายถึงว่าสภาพเศรษฐกิจจริงจะฟื้นตัวแล้ว และขณะที่ประเทศเกิดใหม่ต่างๆกำลังกังวลถึงมาตรการกระตุ้นในประเทศ

อุตสาหกรรม ที่ส่งผลต่อค่าเงินและเงินทุนไหลเข้า เธอก็กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่คงมาตรการผ่อนคลาย เพื่อการฟื้นฟูประเทศ เนื่องจากมีเป้าหมายในอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางต่างๆได้หาหนทางเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโต สำหรับนโยบายการคลังของสหรัฐ เป็นไปในเชิงกระตุ้นที่มากเกินไปในระยะสั้น และน้อยเกินไปในระยะกลาง ซึ่งกำลังบ่งชี้ถึงการชะลอการฟื้นตัว รวมถึงเรียกร้องให้ยุโรปตั้งสหภาพธนาคารที่มีการประกันเงินฝาก เพื่อแบ่งแยกระหว่างส่วนของธนาคารที่ย่ำแย่ และส่วนของประเทศที่ย่ำแย่

ปัจจัยที่ต้องตับตาดูในวันนี้ คือ ตัวเลข Unemployment Claims

อียูกล่าว เศรษฐกิจไซปรัสดูเหมือนจะหดตัว 3.9% ในปี 2014 และคาดหดตัว 8.7% ในปี 2013

เอสแอนด์พี ปรับทบทวนมุมมองไซปรัสจากมุมมองเชิงลบ สู่ระดับมีเสถียรภาพ

เลขากระทรวงกลาโหม นายฮาเกลกล่าวว่า เกาหลีเหนือใกล้เข้าสู่ภาวะอันตราย และควรลดวาทะที่ก้าวร้าว เพื่อลดความตึงเครียด รวมถึงกล่าวว่า สหรัฐได้เตรียมพร้อม “อย่างเต็มรูปแบบ” เพื่อจัดการกับปัญหานี้แล้ว

เกาหลีใต้กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ “สูงมาก” ที่เกาหลีเหนืออาจจะทดสอบการปล่อยขีปนาวุธระยะกลางได้ทุกเวลาเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง หลังจากที่ข่มขู่มาเป็นหลายสัปดาห์

Barrick Gold ซึ่งเป็นเหมืองทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ค้างงานก่อสร้างโครงการ Pascua-Lama (ปาสคัว ลามะ) เอาไว้ เนื่องจากความกังวลด้านสภาพแวดล้อมและด้านกฎหมาย

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้

- Crude Oil Inventories ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.3M จากตัวเลขเดิมที่ 2.7M

- Federal Budget Balance ตัวเลขจริงออกมาที่ -106.5B จากตัวเลขเดิมที่ -203.5B

ตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้

- Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 362K จากตัวเลขเดิมที่ 385K

วิเคราะห์ราคาทองคำ

ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมากในทิศทางขาลง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความตึงเครียดของคาบสมุทรเกาหลี และไม่มีการสู้รบจริงในคืนวันอังคารที่ได้ขู่เอาไว้ ก็มีแรงเทขายในตลาดทองคำเข้ามาโดยตลอดในช่วงเช้าตลาดเอเชีย จนในช่วงตลาด COMEX มีข่าวรั่วไหลว่าเฟดอาจจะหยุดมาตรการ QE ลงเร็วกว่าที่คาด และเกิดแรงเทขายอย่างหนัก ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงย่างหนัก 30 เหรียญหรือกว่า 1.5% ลงไปทำต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,556 เหรียญโดยประมาณ กลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,558.8 เหรียญ โดยที่ภาพรวมของราคาทองคำยังถูกมองในเชิงลบเนื่องจากไซปรัสอาจจะมีการขายทองคำออกมาจากทุนสำรองเพื่อชดใช้หนี้ และกองทุน SPDR ยังขายทองคำออกมาต่อเนื่องอีก 16.84 ตัน คงทองคำเหลือเพียง 1,183.53 ตัน

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำมีความผันผวนในทิศทางขาลง ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับแรกในระยะสั้นที่ระดับ 1,580 เหรียญ และรูดลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ทองคำในระยะรายชั่วโมง รายนาทีกลับมาเป็นขาลงอีกครั้ง ในขณะที่ระยะกลาง กราฟรายวันยังเป็นขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งแนวรับสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ 1,550 เหรียญซึ่งเป็นจุดต่ำเดิม ถ้าหากราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,545 เหรียญคาดว่าจะลงไปทดสอบ 1,500 เหรียญ ในขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่บริเวณ 1,575 เหรียญ และแนวโน้มกลับมาเป็นทิศทางขาลงโดยสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง จึงแนะนำให้นักลงทุนปิดสถานะ Long Position และเปิดสถานะ Short Position อีกครั้งหนึ่ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำให้ทำการเปิด Short Position ตั้งแต่บริเวณ 1,565 เหรียญบวกลบขึ้นไป แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ทำกำไรในทิศทางขาลง โดยระดับ 1,550 เหรียญตั้งไว้เป็นเป้าหมายแรก

- นักลงทุนถือ Long Position

จำเป็นที่จะต้องทำ Stop Loss ออกไปตั้งแต่ 1,575 เหรียญแล้ว และเปิด Short Position ตามลงมา แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position และเล่นเก็งกำไรในทิศทางขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

แนะนำให้ทำการซื้อเพื่อทำกำไรเป็นช่วงๆ และเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นก็แนะนำให้เปิด Short Position ต่อ

Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,700 บาท

Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,750 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ