วายแอลจี แนะเฉลี่ยซื้อทอง หากราคาแตะ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 17,700 บาทต่อบาททองคำ เผยสถาบันชั้นนำลดคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2556

พุธ ๑๗ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๖:๕๔
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำในปัจจุบันที่มีการปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทำจุดต่ำสุดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาในบริเวณ 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง 21% จากต้นปีนี้ จนทำให้ตลาดฟิวเจอร์สในสหรัฐฯ(COMEX) ต้องปรับเพิ่มการวางเงินประกัน 18.5% แสดงถึงการปรับตัวของราคาที่ค่อนข้างเร็วและรุนแรง

โดยการปรับตัวลงในครั้งนี้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่เกิดจากกระแสข่าวของไซปรัสอาจขายทองคำประมาณ 10 ตันจากที่มีทองคำเป็นทุนสำรอง 13.9 ตันด้วยกัน เพื่อเป็นหนทางในการได้รับเงินช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้ทรอยก้าเพิ่มเติม ทำให้เกิดความกังวลว่าประเทศอื่นๆในยูโรโซนจะมีแนวคิดดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหากมีการขายทองคำออกมาจริง แรงขายจากนักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยจะตามออกมาอีก โดยในสถานการณ์ปัจจุบัน กองทุน SPDR ได้ลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง ไม่แตกต่างจากมุมมองของสถาบันชั้นนำที่ปรับลดการคาดการณ์ราคาทองปีนี้ลงอีกครั้ง ล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 3 เดือนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนในระยะเวลา 6 เดือนได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงมาอยู่ที่ระดับ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 12 เดือนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,800 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในส่วนของเฮดจ์ฟันด์ก็ได้เทขายพอร์ตสินค้าโภคภัณฑ์ พร้อมโยกเงินเข้าลงทุนในหุ้น

นางพวรรณ์ กล่าวว่า วายแอลจีมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางของราคาทองคำในขณะนี้ ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 20,400 บาทต่อบาททองคำ แนวโน้มขาลงของราคาทองคำจะดำเนินต่อไป โดยประเมินกรอบแนวรับไว้ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 17,700 บาทต่อบาททองคำ หากหลุดลงไป แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 16,300 บาทต่อบาททองคำ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้ นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูว่าราคาทองคำจะสามารถตั้งฐานในบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ โดยสามารถเฉลี่ยซื้อได้หากมีการปรับตัวลงมาใกล้ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 17,700 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดลงไป เพื่อไปรอซื้อในบริเวณด้านล่างอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำกลับตัวขึ้นไปในบริเวณ 1,400-1,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 19,100-19,400 บาทต่อบาททองคำ เน้นให้นักลงทุนขายทองคำเพื่อทำกำไรออกมาก่อน เนื่องจากโซนดังกล่าวจะเป็นแนวต้านที่สำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO