ห้องเรียนขนมปังแสนอร่อยของเด็กกุ๊กไก่

จันทร์ ๒๒ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๕:๒๕
ได้กลิ่นหอมกรุ่นฟุ้งมาจากห้องเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/3โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ถ.พระราม 4 ซึ่งกำลังจัดแสดงนิทรรศการ Project Approach เรื่อง “ขนมปัง” อยู่ ทำให้เราอดเข้าไปแวะชมไม่ได้ เด็กๆ และคุณครูช่วยกันเนรมิตให้กลายเป็นห้องเรียนเบเกอรี่แสนน่ารัก เต็มไปด้วยขนมปังหน้าตาน่ารับประทานวางทุกมุมห้อง และนี่จึงเป็นที่มาในการนำเสนอผลงานการค้นคว้าวิจัยของเหล่าเชฟตัวน้อย วัย 3 ขวบกว่าของเราในวันนี้ ที่ได้ทำการเรียนรู้ผ่าน การฟัง การสัมภาษณ์ การซักถาม การเล่นบทบาทสมมุติ เล่นเกม รวมทั้งการสืบค้นจากหนังสือ และค้นคว้าข้อมูลมาจากบ้าน เอาละ,เราไปติดตามดูเรื่องราวกันเลยค่ะ

คุณครูเบญญาภา ศิริพันธุ์ หรือครูเติ้ล คุณครูประจำชั้นอ.1/3 เล่าให้เราฟังว่า การเรียนรู้เริ่มจากในสัปดาห์ที่ 1 คุณครูได้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ใช้หลักรัฐศาสตร์มาช่วยกันโหวตเรื่องที่ตัวเองสนใจมากที่สุด จนได้มติประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ว่า อยากเรียนรู้เรื่อง ขนมปัง มากที่สุดจำนวน 12 เสียง ซึ่งเด็กๆ ให้เหตุผลว่าเพราะต่างก็เคยทานขนมปัง และรู้ว่ามีรสชาติอร่อยมาก โดยเรียนรู้ในขั้นต่อไป ครูเปิดโอกาสให้เด็กๆได้พูดคุยและทำกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความรู้เดิมเกี่ยวกับขนมปัง อาทิ การปั้นดินน้ำมัน วาดภาพ ประดิษฐ์เศษวัสดุจากความคิดของตนเองเกี่ยวกับขนมปัง และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าอยากรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับขนมปัง ต่อจากนั้น ช่วยกันสืบค้นหาความรู้จากการร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับขนมปัง โดยน้องคัลเลอร์ ด.ญ. ภูริชญา โชคเศรษฐกิจ เล่าว่าตนเองได้ร่วมด้วยช่วยกันกับคุณแม่ หาความรู้เรื่องขนมปังจากอินเตอร์เน็ตได้ความว่า“ขนมปังตรงขอบจะมีสีน้ำตาล ข้างในมีสีขาวๆ และนิ่มๆ มีกลิ่นหอม มีหลายรูปทรงทั้งวงกลม สี่เหลี่ยม และยาวๆ เอามาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆได้ และสามารถนำมารับประทานได้ขนมปังมี 4 ประเภท คือ ขนมปังปอนด์ ขนมปังผิวแข็งขนมปังซอฟต์โรล และขนมปังหวาน ทุกชนิดมีส่วนผสมของแป้งสาลี ยีสต์และน้ำ” นอกจากนี้เด็กๆ ทั้งห้องได้ช่วยกันทำขนมปัง เริ่มตั้งแต่ช่วยกันตวงแป้ง ตวงส่วนผสมต่างๆ โดยมีครูคอยดูแลและให้คำแนะนำ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าตื่นเต้นและสนุกสนานมากกับการทดลองทำขนมปังครั้งแรกในชีวิต โดยอุปสรรคที่เด็ก ๆ พบคือ ขนมปังอบออกมาแล้วแฟบ ไม่ฟู ดูไม่น่าทาน แถมแข็งโป๊กอีก เพราะช่วยกันตวงส่วนผสมหลายมือไปหน่อย ส่วนผสมเลยขาด ๆ เกินๆ และเป็นเพราะใส่ผงฟูน้อยเกินไปนั่นเอง แต่...ผลงานครั้งแรกก็หมดเกลี้ยง ถึงจะแข็งและแฟบ มันก็อร่อยสำหรับหนู ๆ เขาล่ะค่ะ

น้องแคลร์ ด.ญ. สาริศา ศรีวราธนบูลย์ ได้อาสาพาเราไปทดสอบการทำงานของยีสต์ โดยใส่ยีสต์ 1 ช้อนต่อน้ำตาลทราย2 ช้อน แล้วทิ้งไว้ 45 นาที นอกจากนี้น้องแคลร์ยังบอกอีกว่า“ยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังมีสีน้ำตาล โดยจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นคาร์บอนไดออกไซค์ เป็นตัวช่วยทำให้ขนมปังฟูขึ้นมาและหากใส่เยอะขนมปังจะนิ่ม” เห็นไหมว่าหนูได้รับการสอดแทรกวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปด้วยโดยไม่รู้ตัว

และเมื่อถึงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยมีมาตั้งแต่เมื่อครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี คุณครูได้นำกระทงที่ทำมาจากขนมปังมาให้เด็กๆได้สังเกตรูปร่าง ลักษณะของกระทง และทดลองประดิษฐ์กระทงจากแป้งขนมปังตามใจชอบ แล้วนำไปทดลองลอยที่สระน้ำจำลองอีกด้วย

หลังจากนั้นถึงคิวสาวน้อยน่ารัก น้องมินเม ด.ญ.วินิธา ปัญจมะวัต ได้เล่าให้เราฟังอย่างตื่นเต้นว่า “คุณครูได้พาหนูและเพื่อนๆ ไปทัศนศึกษาที่โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต มีเชฟโต้ง หรือ อาจารย์นคร แซ่สี มาสาธิตการทำขนมปังลูกเกดให้พวกเราดูด้วยค่ะ วันที่ไปหนูรู้สึกตื่นเต้นมาก หนูมาโรงเรียนแต่เช้าเลย พอไปถึงเชฟโต้งก็ใจดีมากๆค่ะ ” ในการไปครั้งนี้ เด็กๆได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ตรงเรื่อง “ขนมปัง” ทั้งในเรื่องราวเกี่ยวกับขนมปังชนิดต่างๆ ขั้นตอนการผลิต วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ และในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ซึ่งเป็น“วันพ่อแห่งชาติ” เด็กๆ ได้มีโอกาสประดิษฐ์การ์ดวันพ่อ และได้ทำขนมปังแซนวิชเพื่อนำกลับไปเป็นของขวัญในวันพ่อ ก่อนที่เด็กๆจะได้ทำขนมปังแซนวิช เด็กๆได้ออกแบบขนมปังแซนวิช ก่อน เพื่อฝึกทักษะทางความคิดในด้านต่างๆ เช่นทักษะความคิดสร้างสรรค์ ในการออกแบบและทำตามแบบที่ออกไว้ ทักษะความคิดวิเคราะห์ในการเลือกสิ่งที่จะนำมาประกอบในการทำแซนวิช อีกด้วย ซึ่งก็สร้างความประทับใจให้แก่คุณพ่อของทุกคนกันถ้วนหน้า

และในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนรู้แบบโครงงานเด็กๆ ได้ร่วมเล่นเกมจับคู่ภาพเหมือนของขนมปังชนิดต่างๆ เกมภาพตัดต่อเกี่ยวกับขนมปัง ทดลองวิทยาศาสตร์สังเกตการเปลี่ยนแปลงของขนมปังเมื่อโดนความร้อน และขนมปังที่นำไปตากแดดว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งขนมปังที่หมดอายุแล้วว่าเป็นอย่างไรและจำลองสิ่งที่เด็กๆได้เรียนรู้ตามที่เด็กสนใจ ซึ่งในที่นี้เด็กๆสนใจที่จะจำลองเตาอบขนมปังที่ได้พบเห็นตอนไปทัศนศึกษาโรงเรียนการอาหารนานาสวนดุสิต ซึ่งเด็กๆเริ่มต้นกระบวนการโดยช่วยกันคิดว่าจะนำวัสดุอะไรมาทำ และจะทำอย่างไร และลงมือปฎิบัติ เมื่อสิ้นสุดทุกกระบวนการการเรียนรู้แล้วครูและเด็กๆจะช่วยกันสรุปผลการสืบค้น ลำดับเหตุการณ์ วางแผนการจัดแสดงผลงานตลอดจนจัดทำบัตรเชิญเพื่อเชิญคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach นั้นทำให้เด็กได้หัดเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้า วิจัย เป็นการเรียนรู้ที่ฝึกให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมภายในครอบครัว ใช้เวลาว่างระหว่างพ่อ แม่ ลูกร่วมกัน สร้างความรัก ความอบอุ่น เสริมสร้างสายใยระหว่างครอบครัวควบคู่ไปด้วย ลองไปชมผลงานจิ๋วแต่แจ๋วของน้องๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://www.kukai.ac.th/

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version