โอกาสนี้ พิพรรธน์ ลาภพงศ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จากโรงเรียนนราสิกขาลัย อาสาเป็นตัวแทนกล่าวแสดงความรู้สึกเนื่องในโอกาสที่แรงบันดาลใจเล็กๆของเขาและผองเพื่อนก้าวมาสู่ความสำเร็จอีกขั้น
“โครงการของผมเป็นโครงการที่มุ่งสร้างความสมัครสมานสามัคคีนะครับ โครงการนี้เริ่มจากเหตุการณ์ ความไม่สงบใน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมรู้สึกว่าเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และพวกเราก็คิดว่า การที่จะแก้ไข ปัญหานั้นจะต้องเริ่มจากการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันก่อน เราจึงรวมกลุ่มกันทำ โครงงานเพื่อที่จะสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้กับคนในพื้นที่ เช่น ทำกิจกรรม รวมพลัง ปลุกน้ำใจ ให้ชาวใต้มีรอยยิ้มครับ โดยพวกเราจะเข้าไปให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ไปพูดคุยกับเขา แล้วก็มีการทำกิจกรรมให้เขาสนุก ไม่เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัลครับ พอได้ก็ดีใจมากเลยที่มีคนเห็นความดีของเรา ตอนแรกก็พูด อะไรไม่ออกเพราะไม่เคยได้รับรางวัลขนาดนี้มาก่อน ดีใจครับที่มีคนเห็นความดี พวกเราจะทำโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไปครับ ”
และในพิธีมอบรางวัลโครงการต้นแบบเธอคือแรงบันดาลใจประจำปีนี้ ที่ห้องเทเวศร์ สำนักงาน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็ได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ใจดี ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาเป็นประธาน โดย ดร.จิรายุ กล่าวถึงการดำเนินโครงการว่า“ โครงการนี้ถือกำเนิดขึ้นมาเพราะเรานึกถึงพระปฐมบรมราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ” อยู่ตลอดเวลา พอมีโครงการนี้ ขึ้นมาทำให้เราได้มีส่วนในการปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า เรากำลังส่งเสริมให้เยาวชนซึ่งเป็น กำลังสำคัญของชาติได้มีความคิดที่ดี ได้ทำอะไรที่ดีเพื่อส่วนรวม นี่คงเป็นวิธีที่ดีที่เราจะมั่นใจได้ว่า หลักการเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะเยาวชนนี่ล่ะ
โครงการนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ ๔ แล้ว ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจว่าไม่ได้ทำแบบไฟไหม้ฟาง ทำหนเดียว แล้วเลิก และก็หวังว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แต่เราทำเท่านั้น แต่ทำกันทั่วไปหลังจากได้รับแรงบันดาลใจ จากโครงการที่เราทำตรงนี้ มีคนเห็นเป็นตัวอย่างก็นำไปทำอีก คนอื่นเห็นก็นำไปทำด้วย จะทำให้เกิดผล ที่ดีตามเป้าหมาย โปรดสังเกตว่ามีสิ่งดีๆที่อยู่ในโครงการหลายปัจจัยทีเดียว
อันที่หนึ่งคือเรื่องของเยาวชน หากเราไม่ทำอะไรที่เกี่ยวกับเยาวชน ความต่อเนื่องของประโยชน์ สุขของมหาชนชาวสยามจะไม่ต่อเนื่องในอนาคตเพราะเยาวชนเท่านั้นที่จะสานต่อสิ่งเหล่านี้ไปในอนาคตได้
ประการที่สอง เยาวชนไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง แต่เยาวชนคิดถึงสังคม คิดถึงประโยชน์ที่จะทำ ให้กับสังคม ทุกโครงการที่เข้ามา เริ่มต้นตั้งแต่สองร้อยกว่าถึงห้าร้อยกว่า เห็นได้ว่าแต่ละโครงการคิดถึงสังคม
ฉะนั้นนี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เยาวชนรวมกลุ่มกัน ไม่ใช่แค่คนเดียวทำ แต่รวมกลุ่มกันทำโดยได้รับ ความรู้ที่ผู้ใหญ่เป็นผู้แนะนำ แต่เยาวชนต้องไปทำเอง ก็จะปลูกฝังนิสัยให้นึกถึงสังคมต่อไปในอนาคต
อีกประเด็นที่ผมคิดว่ามีความสำคัญคือเรื่องของความต่อเนื่อง เวลาที่เราได้รับฟังที่ผ่านมา เยาวชนทุก กลุ่มจะต้องพูดถึงประเด็นที่ว่าจะต่อเนื่อง อย่างไร จะส่งต่อให้รุ่นน้องอย่างไร เราจะได้มีความมั่นใจว่า ไม่ใช่ แต่รุ่นที่มาเท่านั้น แต่รุ่นต่อๆ ไปก็จะถ่ายทอดความรู้สึกหรือความตั้งใจในการทำเพื่อส่วนรวม นี้ต่อไปในอนาคตจากรุ่นสู่รุ่น
อีกเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีสำหรับโครงการนี้คือการเชื่อมต่อกับผู้ใหญ่ในชุมชนด้วย เพราะเราเชื่อว่าชุมชน เป็นหน่วยที่มีความสำคัญมากของประเทศ ในชุมชนมีกลุ่มคนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ครู เราถือว่าชุมชนเป็นหน่วยที่มีความสำคัญต่อชาติ เพราะฉะนั้นการที่มีผู้ใหญ่ของชุมชนมาร่วมอยู่ด้วยแทนที่จะอยู่แต่ในโรงเรียน เท่านั้นจึงคิดว่าจะมีผลกระทบที่สำคัญ
ผมหวังว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในการสร้างเยาวชนที่นอกจากจะเรียนหนังสือให้เป็นคนเก่งและคนดี ได้มีกิจกรรมที่เอื้อเฟื้อต่อสังคมส่วนรวมและเป็นผู้นำพาชาติไปสู่ความเข้มแข็ง ความเจริญ ความสุขในอนาคต ”
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ โครงการ “ เธอ คือ แรงบันดาลใจ ”
ตู้ ปณ. ๑๑๑๙ ปณฝ. เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ๑๐๓๑๑
โทร ๐๒-๖๕๒-๑๑๕๕ ต่อ ๒๐๑ , ๐๘๒-๗๙๖-๑๖๗๐-๑
E-Mail:// [email protected]