นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ทั้ง 3 องค์กรมีแนวคิดร่วมกัน คือ ต้องการสนับสนุนและผลักดันโครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้เกษตรกรไทยเล็งเห็นความสำคัญของการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยในพื้นที่นาหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ปลูกพืชอื่นซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้ว ถั่วเหลืองยังเป็นพืชที่ช่วยปรับปรุงสภาพดินในแปลงนา ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตรกร
โครงการฯ นี้เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ มีกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 13 กลุ่ม คิดเป็นพื้นที่ปลูกประมาณ 12,000 ไร่ ส่วนในฤดูกาลปลูก 2556/2557 คาดว่าจะขยายพื้นที่ปลูกทั้งในจังหวัดเดิมและขยายเพิ่มอีก 4 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ หนองบัวลำภู ในส่วนของการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ นอกจาก การอบรมให้ความรู้ คำแนะนำในด้านวิธีการปลูก การเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่เหมาะสมช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตแล้ว ยังรวมไปถึงการวางแผนด้านตลาดรองรับผลผลิตโดยมี บจ.กรีนสปอต ผู้ผลิตน้ำนมถั่วเหลือง และสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าวรับซื้อผลิตทั้งหมด ในราคาที่เป็นธรรม
ซึ่งนอกจากความร่วมมือของ 3 องค์กรภาคเอกชนแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งในด้านการจัดหาเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี การสนับสนุนด้านวิชาการ รวมทั้งนักวิชาการมาอบรมให้ความรู้ และคำแนะนำ ทำให้การดำเนินโครงการสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ แต่จากการดำเนินงานที่ผ่านมาเกษตรกรบางกลุ่มยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากยังกังวลกับตลาดรับซื้อ ซึ่งการจัดงานส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองอย่างครบวงจรครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรในการจัดหาตลาดรับซื้อผลผลิตถั่วเหลืองของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งหลังการจัดงานในวันนี้ คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรจะได้รับการสนับสนุนอย่างครบวงจรและเป็นรูปธรรม และในส่วนของ สยามคูโบต้า เรามีความพร้อมในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างครบวงจร ที่จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพงาน พร้อมให้คำแนะนำพี่น้องเกษตรกร” นายโอภาศกล่าวเพิ่มเติม
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลล์ กล่าวว่า “ปัจจุบันคนไทยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ถั่วเหลืองก็เป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลาย คนไทยจึงนิยมบริโภคน้ำนมถั่วเหลืองกันมากขึ้น และยังมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่สามารถบริโภคนมวัวได้เนื่องจากมีการแพ้ ตลาดถั่วเหลืองจึงมีการเติบโต และมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการเพาะปลูกถั่วเหลืองในประเทศไทยยังไม่เพียงพอ กรีนสปอตจึงได้เข้าร่วมจัดโครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว โดยทำหน้าที่ในการเข้าไปรับซื้อถั่วเหลืองที่คัดแล้วได้เกรดตามมาตรฐานของไวตามิ้ลค์ทั้งหมด ส่วนเกรดที่ไวตามิ้ลค์ไม่สามารถรับซื้อ ก็จะมีสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าวเข้ามารับซื้อ เพื่อนำไปแปรรูปเป็นน้ำมันถั่วเหลือง ดังนั้นเกษตรกรจึงหมดห่วงปัญหาในเรื่องตลาดของการรับซื้อถั่วเหลืองได้อย่างแน่นอน”
นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว เปิดเผยว่า “เนื่องจากประเทศไทยมีเกษตรกรปลูกถั่วเหลืองค่อนข้างน้อย มีผลผลิตเพียง 2 แสนเมตรตริกตัน ทำให้ต้องมีการนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศมากกว่า 2 ล้านเมตรตริกตัน คิดเป็นมูลค่านำเข้าทั้งในรูปของเมล็ดและกากถั่วเหลืองมากกว่า 67,000 ล้านบาท/ปี การที่สมาคมฯ เข้าร่วมส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนั้น เพราะ สมาคมฯ เปรียบเสมือนตลาดในการรับซื้อถั่วเหลืองทั้งหมดจากเกษตรกร โดยหลังจากการคัดแยกเกรดเพื่อส่งขายให้กับไวตามิ้ลล์แล้ว ถั่วเหลืองที่เหลือทั้งหมด สมาคมฯ จะเป็นผู้รับซื้อเพื่อนำมาสกัดเป็นน้ำมันถั่วเหลือง สำหรับในเรื่องของราคาการรับซื้อนั้นเมล็ดที่เกรดดีจะมีราคาที่สูงขึ้น ส่วนเกรดที่ต่ำลงมาจะได้ตามราคาที่รัฐบาลรับซื้อ”
“โครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวข้าว” เกิดจากพื้นที่เกษตรกรรมในภาคอีสานส่วนใหญ่สามารถทำนาได้เพียงปีละครั้ง เพราะปัญหาขาดแคลนน้ำ จึงมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยต้องปล่อยที่นาทิ้งว่างเปล่า ด้วยเหตุนี้ สยามคูโบต้า กรีนสปอต สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว จึงเล็งเห็นความสำคัญในการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยนอกฤดูกาลทำนาปรัง ถั่วเหลืองซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำเพียง 1 ใน 4 ของการปลูกข้าวนาปรัง ดังนั้น ถั่วเหลืองจึงเป็นพืชทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้ว ยังเป็นพืชบำรุงดิน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยลดการนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศ โดยปี 2555 ประเทศไทยนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง ซึ่งสูงถึงกว่า 67,000 ล้านบาท/ปี
หากเกษตรกรกลุ่มใดสนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อหน่วยงานโครงการ CSR สยามคูโบต้า โทร. 08-9925-7245 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.siamkubota.co.th