เปิด 7 ประเด็นข้อสัญญาไม่เป็นธรรม กทค. เร่งเคลียร์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค 3G

พฤหัส ๒๕ เมษายน ๒๐๑๓ ๑๕:๕๕
กรณีคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้มีการพิจารณาสัญญาการให้บริการ 3 G ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่น 2.1 GHz ทั้ง 3 ราย คือ บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บริษัทดีแทค เนทเวอร์ค และบริษัทเรียล ฟิวเจอร์ แต่ กทค. ยังไม่มีมติอนุมัติ โดยมอบหมายให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. ด้านกฎหมายและนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไปหารือนอกรอบร่วมกัน

ต่อเรื่องดังกล่าว นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา เปิดเผยว่า ปมประเด็นของเรื่องเกิดจากในชั้นกลั่นกรองเรื่อง ตนได้ตั้งประเด็นที่ไม่เห็นชอบกับข้อสัญญาของผู้ให้บริการไว้หลายประการ เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อสัญญาที่เอาเปรียบหรือละเมิดสิทธิผู้บริโภค โดยเฉพาะ 7 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

1. การสร้างภาระผูกพันต่อผู้บริโภคด้วยการเสนออุปกรณ์โทรคมนาคมในราคาถูก ซึ่งตามกฎหมายอนุญาตให้เสนออุปกรณ์ได้ แต่ห้ามกำหนดเงื่อนไขให้เกิดภาระแก่ผู้บริโภค หากผู้บริโภคต้องการเลิกสัญญาก่อนกำหนดก็ย่อมทำได้โดยมีหน้าที่ต้องคืนอุปกรณ์ให้บริษัท และถ้าทำอุปกรณ์เสียหายก็ชดใช้ตามราคาตลาด แต่ไม่ต้องเสียเงินค่าปรับหรือค่าเสียหายจากการไม่ใช้บริการต่อ อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าสัญญาของบางบริษัทระบุเฉพาะหน้าที่ของผู้บริโภค แต่ไม่บอกว่าบริษัทไม่มีสิทธิผูกมัดผู้บริโภค

2. เรื่องการให้บริการเสริม สัญญาที่บางบริษัทเสนอระบุชัดว่า ผู้ให้บริการจะเป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าบริการแทนผู้ให้บริการเสริมต่างๆ แต่ไม่พูดถึงว่ามีหน้าที่ต้องร่วมกับผู้ให้บริการเสริมในการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคในกรณีเกิดปัญหาด้วย

3. เรื่องการคืนเงินแก่ผู้บริโภคเมื่อมีการเลิกสัญญา ซึ่งบางบริษัทมีการใช้คำว่าจะคืน “เงินสุทธิ” หลังหักค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงขัดกับที่กฎหมายกำหนดว่าจะต้องคืนเต็มจำนวน

4. เรื่องการจำกัดวงเงินใช้บริการ ซึ่งข้อสัญญาที่ผู้ให้บริการเสนอเข้ามามีการระบุว่า ผู้ให้บริการอาจพิจารณาขยายวงเงินนั้นได้เอง โดยผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบในค่าบริการที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งที่ตามกฎหมายกำหนดว่าสัญญาต้องเกิดจากการตกลงของสองฝ่าย หรือที่เรียกว่า “เสนอสนองตรงกัน”

5. เรื่องการเปลี่ยนแปลงสิทธิตามรายการส่งเสริมการขาย หรือสิทธิอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการได้สมัครไว้ โดยข้อสัญญาของบางบริษัทกำหนดว่าเป็นสิทธิของผู้ให้บริการที่จะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่ถูกคือต้องให้ผู้ใช้บริการยินยอมด้วย

6. เรื่องระยะเวลาขั้นสูงในการระงับบริการชั่วคราว ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2543 ข้อ 3 (4) ได้ให้สิทธิผู้ใช้บริการระงับบริการชั่วคราวได้สูงสุดถึง 6 เดือน แต่สัญญาของ 3 รายที่เสนอมา ส่วนใหญ่เพียงระบุว่าเป็นสิทธิของบริษัทที่จะกำหนดเวลาดังกล่าวโดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบภายหลัง และบางรายก็กำหนดให้ขอระงับบริการได้เพียงคราวละ 30 วัน

7. เรื่องการแจ้งรายละเอียดค่าบริการและการใช้บริการ ซึ่งมีสัญญาของบางบริษัทระบุว่าจะแจ้งข้อมูลรายละเอียดการใช้บริการเฉพาะใน “พื้นที่เดียวกัน” รวมทั้งมีการกำหนดว่า หากผู้ใช้บริการต้องการรับรายละเอียดของค่าใช้บริการในรอบนั้นซ้ำอีก ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามอัตราที่บริษัทกำหนด ซึ่งเป็นการเปิดกว้างให้เป็นเรื่องตามอำเภอใจของบริษัทเกินไป

ทั้งนี้ นายประวิทย์ระบุว่า ในเนื้อหาสาระของสัญญาที่ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายส่งมาให้พิจารณานั้นมีข้อกำหนดทั้ง 7 ประเด็นดังกล่าวในลักษณะที่เป็นการรุกล้ำสิทธิของผู้บริโภคหรือบางกรณีก็เป็นการตัดสิทธิและปิดโอกาสในการเลือกของผู้บริโภค ทั้งๆ ที่ทุกประเด็นเป็นสิ่งที่มีกฎหมายบัญญัติรองรับไว้ ดังนั้นต้องให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายแก้ไขข้อสัญญาให้เป็นไปตามกฎหมายก่อน กทค. จึงจะอนุมัติแบบสัญญาได้

“ทุกประเด็นดูเหมือนเป็นเรื่องรายละเอียด แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า สัญญาให้บริการโทรคมนาคมนั้นเป็นสัญญาสำเร็จรูป ที่ผู้ให้บริการเป็นฝ่ายกำหนดเงื่อนไขแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งอาจมีเงื่อนไขที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคได้ ดังนั้นเมื่อกฎหมายให้ กสทช. มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติ ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงความเป็นธรรมของคู่สัญญา โดยเฉพาะทางด้านของผู้บริโภคที่ไม่ได้เป็นฝ่ายออกแบบหรือมีส่วนร่างสัญญาเลย กสทช. จึงต้องดูอย่างละเอียด จะพิจารณาเพียงระดับหลักการไม่ได้ เพราะข้อสัญญาจะมีผลผูกมัดผู้ใช้บริการในระบบ 3G ทั้งหมดต่อไป” นายประวิทย์กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการหารือนอกรอบ นายประวิทย์เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้ข้อยุติร่วมกันแล้ว นั่นคือให้ปรับตามข้อเสนอของตนเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือเพียง 1-2 ประเด็นที่ยังไม่สรุปชี้ชัด แต่รอให้ที่ประชุม กทค. เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธาน กทค. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประกาศไว้แล้วว่าจะประชุมพิจารณาแบบสัญญาให้เสร็จสิ้นในวันที่ 29 เมษายนนี้ เพื่อให้การเปิดบริการ 3G เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมได้ตามที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version