นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเบาะหนังสำหรับรถยนต์รายใหญ่ของไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีครั้งที่ 8 มีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มเติม 2 ท่าน คือนายนิติ เนื่องจำนงค์ ซึ่งเป็นอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และ นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MODERN) ซึ่ง MODERN เข้ามาถือหุ้นของบริษัทรวมร้อยละ 4.57หรือคิดเป็นจำนวน 16 ล้านหุ้น ทั้งนี้โมเดอร์นฟอร์มเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย สินค้าเฟอร์นิเจอร์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีกลยุทธ์ที่สามารถต่อยอดธุรกิจระหว่างกันได้เพิ่มมากขึ้น โดยคุณทักษะ บุษยโภคะ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการบริหารและมีวิสัยทัศน์ที่ดีเชื่อว่าจะเป็นกำลังสำคัญของบริษัทฯ ซึ่งที่ผ่านมาทางโมเดอร์นฟอร์มสนับสนุนบริษัทฯ IHL จากการที่มีคำสั่งซื้อหนังเพื่อไปผลิตเฟอร์นิเจอร์อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติตามที่เสนอให้มีการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ในกรณีที่มีเศษหุ้นจะปันผลเป็นเงินสดแทนในอัตราหุ้นละ 0.20000 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.022223 บาท เป็นการจ่ายปันผลเพิ่มเติมจากที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปี 2555 ไปแล้วในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2556
“บริษัทฯเสนอให้เพิ่มจำนวนคณะกรรมการบริษัทอีก 2 ท่าน หนึ่งในนั้นคือ คุณทักษะ บุษยโภคะจากโมเดอร์นฟอร์ม หลังจากมีการลงทุนในบริษัทที่ 4.57% ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายและการเข้าถือหุ้นจึงมีแนวคิดว่าคุณทักษะและกลุ่มโมเดร์นฟอร์มจะเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจเราเพิ่มเติมได้ เพราะการทำเครื่องหนังเฟอร์นิเจอร์ยังมีโอกาสเติบโตร่วมกันได้เพิ่มเติมจากเดิม ที่ผ่านมาเราหวังแค่จะกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพารายได้จากการผลิตเบาะหนัง แต่มองเห็นโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆเพิ่ม จึงเชิญเข้ามาเป็นกรรมการให้เรา พร้อมกันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเรื่องการจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด โดยหุ้นจ่ายเป็น 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายเงินสดที่ 0.022223 บาทต่อหุ้นด้วย ซึ่งถือว่าเราปันผลร้อยละ 59 ของกำไรสุทธิ” นายองอาจ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ชี้แจงนโยบายการดำเนินงานและทิศทางการดำเนินงานปี 2556 ตามที่ผู้ถือหุ้นได้ซักถาม โดยในปี 2556คาดว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2555 ซึ่งรายได้รวมปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,916.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 250.13 ล้านบาท โดยคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับร้อยละ 22-25ไว้ ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการผลิตเบาะหนังรถยนต์ที่มีโมเดลใหม่อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มาสด้าหนังเฟอร์นิเจอร์ หนังรองเท้า