นายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)(MATCH) เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 210 ล้านหุ้น ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับ 1 แบบคำขอและแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) แล้วตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในระหว่างนี้ทีมผู้บริหารได้เดินสายนำเสนอข้อมูลการขายหุ้น (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้คาดว่าจะสามารถกำหนดราคาและดำเนินการขายหุ้นได้ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้
จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปก่อสร้างสตูดิโอครบวงจร โดยคาดว่าจะเริ่มได้ภายในปลายปี 2556 เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งคณะผู้บริหารเชื่อว่าจะเป็นโอกาสการเติบโตของ MATCH ในอนาคต เพราะการสร้างสตูดิโอและเมืองถ่ายหนังครบวงจรครั้งนี้ จะเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาค ที่จะสามารถรองรับทั้งการถ่ายกลางแจ้งและถ่ายในร่ม อีกทั้งยังมีเมืองใต้น้ำ เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับทั้งงานทีวี งานอีเว้นท์ และการถ่ายหนัง เพื่อเป็นการรองรับการถ่ายทำจากทีมงานต่างชาติ ส่วนสถานที่ตั้งโครงการจะใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกให้ตั้งอยู่ที่ใด แต่จะเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก
นายสมบุญกล่าวอีกว่า ล่าสุดที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2556 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2555 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 หลังจากที่ MATCH สามารถทำกำไรปี 2555 อยู่ที่ 61.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 344% จากปีก่อนหน้า และเป็นระดับที่ทุบสถิตินับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างการบริหารภายในและปรับโครงสร้างธุรกิจ หันมาทำในสิ่งที่มีความถนัดและชำนาญ อีกทั้งยังมีมาร์จิ้นสูง
“ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องการเห็นภาพในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เพิ่มทุน PO จำนวน 210 ล้านหุ้น ว่าถึงตอนนั้น MATCH จะเป็นอย่างไร ซึ่งทีมผู้บริหารได้ให้ความเชื่อมั่นว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้นับจากนี้ จะเป็นปีที่จะได้เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของบริษัทฯโดยในปี 2556 นี้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% หรือมีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งจากตัวเลขในไตรมาส 1/56 ก็ถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้ และผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่สตูดิโอครบวงจรแห่งแรกและแห่งเดียวในอาเซียนของเราสร้างเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการ”นายสมบุญกล่าว