นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงาน“แม็กซ์ม่า” เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการรีแบรนด์ดิ้งฟิล์มประหยัดพลังงาน “แม็กซ์ม่า” ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากมีลูกค้าสอบถามเข้ามายังบริษัทจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับการติดต่อจากร้านค้าทั่วไปเพื่อต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงาน“แม็กซ์ม่า” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีร้านขายผ้าม่านหลายรายที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายด้วย บริษัทจึงเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยการออกสินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวแทนจำหน่าย และลูกค้า
ล่าสุด บริษัทได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ จากอเมริกา เป็นการต่อยอดจากธุรกิจปัจจุบันคือฟิล์มประหยัดพลังงานสำหรับอาคารบ้านเรือน และรถยนต์ โดยสินค้าใหม่คือ “ม่านประหยัดพลังงาน”(MAXXMA ECO BLIND) ผลิตจากฟิล์มประหยัดพลังงาน“แม็กซ์ม่า” มีคุณสมบัติหนากว่าฟิล์มกรองแสงทั่ว ๆ ไป มีความหนาขนาด .003 มิลลิเมตร และ .005 มิลลิเมตร มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบผิวเรียบ และแบบลายนูน ซึ่งจะเจาะกลุ่มเจ้าของอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน บ้านจัดสรร และร้านอาหาร เป็นต้น
“ม่านประหยัดพลังงาน”(MAXXMA ECO BLIND) สามารถป้องกันความร้อนได้สูงกว่าม่านม้วนทั่ว ๆ ไป โดยสามารถกันความร้อนได้มากถึง 90% และกัน UV ได้ถึง 99% ซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวอาคารได้ดี ทำให้ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารบ้านเรือนด้วย สามารถมองเห็นภายนอกได้ชัดเจนกว่า ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของฝุ่นและเชื้อโรค ช่วยป้องกันความเสียหาย หรือสีซีดจางของเฟอร์นิเจอร์ และของใช้ภายในอาคารบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การออกแบบยังมีความสวยงาม สามารถดีไซน์รางหรือสายดึงได้หลายสี มีความยืดหยุ่นเลื่อนขึ้น-ลง ได้ตามความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งใช้เป็นของตกแต่งบ้านอีกด้วย”
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในวันที่ 30 เมษายน ถึง วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ บริษัทจะไปร่วมงานสถาปนิกสยามฯที่เมืองทองธานี เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ คือ “ม่านประหยัดพลังงาน”(MAXXMA ECO BLIND) และฟิล์มประหยัดพลังงาน(MAXXMA ECO FILM) เพราะงานดังกล่าวเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งม่านประหยัดพลังงาน“แม็กซ์ม่า” ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นขึ้น โดยใช้ฟิล์มจากอเมริกา ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดตัวและแนะนำสินค้าภายในงานดังกล่าว จะทำให้สถาปนิก อินทีเรีย ดีไซน์เนอร์ รวมถึงผู้บริโภคทั่วไป รู้จักม่านนวัตกรรมมากขึ้น
ด้านนายอนุชา อภิรมย์เดช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับแผนการขยายตลาดนั้น จะเร่งขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมตั้งทีมขาย เพื่อเจาะตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ประมาณ 250 ราย ทั่วประเทศให้ขายสินค้าใหม่ คือม่านประหยัดพลังงานด้วย และจะขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านกลุ่มร้านขายผ้าม่าน เพราะม่านประหยัดพลังงานสามารถใช้ทดแทนผ้าม่านได้
สำหรับราคาม่านประหยัดพลังงานนั้น ราคาขายเฉลี่ยตารางเมตรละ 2,500-3,000 บาทรวมค่าติดตั้ง ขึ้นอยู่กับขนาด และลวดลาย ในช่วงแรกของการทำตลาดจะเน้นให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายว่า เมื่อใช้ม่านประหยัดพลังงานแล้ว จะทำให้อุณหภูมิภายในอาคารลดลงประมาณ 2-3 องศา ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ 10-20 %
นายชัยรัตน์ กล่าวถึงสภาพการแข่งขันของตลาดฟิล์มกรองแสงว่า การแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น หลังจากที่บริษัทประกาศขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นเริ่มให้ความสนใจทำตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดจริงจัง ซึ่งส่วนใหญ่ยังมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์เป็นหลัก
สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขาย 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ10% หากเทียบกับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 13.5 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายปี 2556 ไว้ที่ 70 ล้านบาท แบ่งเป็นรถยนต์ 75% อสังหาริมทรัพย์ 25% และภายในปีหน้า สัดส่วนยอดขายของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นอีก 5% เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง และมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคู่แข่งน้อย และคาดหวังว่า แบรนด์ “แม็กซ์ม่า-MAXXMA” จะที่คุ้นตาเป็นอย่างดีในตลาดอสังหาริมทรัพย์