ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้อนุมัติกรอบงบประมาณสำหรับการจัดทำแผนงานประจำปี พ.ศ. 2556 ให้กับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ จำนวน 51 กองทุน แบ่งเป็น กองทุนประเภท ก จำนวน 11 กองทุน และกองทุนประเภท ข จำนวน 40 กองทุน เป็นงบประมาณกว่า 2,600 ล้านบาท
นายดิเรก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 นี้ กกพ. กำหนดให้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 - 2558) เพื่อแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายและทิศทางในการพัฒนาของกองทุนฯ ในระยะ 3 ปีข้างหน้า อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น นอกจากนี้กองทุนประเภท ก จะต้องดำเนินการศึกษา ประเมิน และวิจัยผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ด้วย และสำหรับกองทุนประเภท ข หากกองทุนฯใดมีการศึกษาในเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็สามารถเสนอเพิ่มเติมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานประจำปีได้
ในขณะนี้ มีกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศที่จัดส่งแผนงานประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2556 และได้รับอนุมัติจาก กกพ. แล้ว จำนวน 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า บริษัท ด่านช้าง ไบโอ-เอ็นเนอร์ยี จำกัด และกองทุนพัฒนาไฟฟ้า บริษัท เอ.ที. ไบโอพาวเวอร์ จำกัด โดยมีโครงการชุมชนที่ได้รับอนุมัติจำนวน 702 โครงการ เป็นเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 174 ล้านบาท จำแนกเป็นค่าใช้จ่ายในการบริการจัดการ 16 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเป็นเงินกว่า 158 ล้านบาท ซึ่งในภาพรวมของประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 นี้ ทั้ง 5 กองทุน เน้นการพัฒนาด้านการพัฒนาชุมชนและองค์กรชุมชน และด้านการพัฒนาการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีตามลำดับ หลังจากนี้ คพรฟ. จะต้องเร่งพิจารณาและแจ้งผลการอนุมัติโครงการชุมชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่ประกาศต่อไป