ส.อ.ท. - กพร. ไอเดียเจ๋ง!! ดึงแนวคิด Green Supply Chain ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมตลอดโซ่อุปทาน

ศุกร์ ๐๓ พฤษภาคม ๒๐๑๓ ๑๔:๓๘
สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผนึกกำลัง สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จัดสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการ “การจัดทำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อ Green Supply Chain ของอุตสากรรมเป้าหมายเพื่อการส่งออก” เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ณ ห้องกษัตริย์ศึก 3 ชั้น 4 โรงแรม เดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ ดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาบรรยายในหลากหลายหัวข้อ ตั้งเป้าลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมตลอดโซ่อุปทาน

นายเสน่ห์ นิยมไทย อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยว่า จากสภาวะการแข่งขันในตลาดโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้ข้อเรียกร้องด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขทางการค้า ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับตัวและให้ความสำคัญต่อสาระและความเข้มงวดของประเด็นข้อกำหนดต่างๆ ของประเทศคู่ค้า เพื่อรักษาตลาดและความสามารถในการแข่งขัน โดยการปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

สำหรับอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง อุตสาหกรรมแปรรูปมันสำปะหลัง และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของโครงการ “การจัดทำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อ Green Supply Chain ของอุตสากรรมเป้าหมายเพื่อการส่งออก” ในปี 2556 นั้น ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวโดยคาดการณ์ว่า การส่งออกมันสำปะหลังของไทยในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 14.0 — 18.0 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 — 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ความต้องการมันสำปะหลังเพื่อการผลิตพลังงาน และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ไบโอพลาสติก และกรดแล็กติก ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยประเทศไทยเองมีเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังมากกว่า 2.6 ล้านคน มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกกว่า 1 ล้านคน ซึ่งนับได้ว่าอุตสาหกรรมมันสำปะหลังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเป็นอย่างมาก

“แม้ว่าภาพรวมการส่งออกมันสำปะหลังของไทยจะมีแนวโน้มขยายตัว แต่อุตสาหกรรมมันสำปะหลังยังเผชิญการแข่งขันทางการตลาดที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขทางการค้าที่ประเทศคู่ค้าต้องยอมรับและปฏิบัติตาม โครงการ “การจัดทำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อ Green Supply Chain ของอุตสากรรมเป้าหมายเพื่อการส่งออก” นี้ จึงถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้พัฒนาองค์ความรู้ในการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ตลอดโซ่อุปทานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการและเครื่องมือด้านสิ่งแวดล้อมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อบ่งชี้ข้อบกพร่องในแต่ละกิจกรรมโลจิสติกส์ตลอดโซ่อุปทานได้ อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ทำให้เกิดการสูญเสียและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้ประกอยการจะได้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพรินท์ซึ่งเป็นหลักฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นการแสดงภาพลักษณ์และเจตนารมณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในตลาดการค้าโลกอีกทางหนึ่งด้วย” นายเสน่ห์ กล่าว

ด้าน นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ โดยสำนักโลจิสติกส์ได้ร่วมกับ สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำโครงการจัดทำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ เพื่อ Green Supply Chain ของอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อการส่งออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำและเผยแพร่แนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรภาคอุตสาหกรรมด้านการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมตลอดโซ่อุปทาน รวมถึงเพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพรินท์ ซึ่งเป็นหลักฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตนเองอีกด้วย ทั้งนี้ โครงการ “การจัดทำแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เพื่อ Green Supply Chain ของอุตสากรรมเป้าหมายเพื่อการส่งออก” ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา มีอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นอุตสาหกรรมยางพาราและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่งได้ดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยมีผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพรินท์จำนวน 9 ผลิตภัณฑ์ จากสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 9 ราย

“สำหรับในปี 2556 นี้ ทางโครงการฯ ได้คัดเลือกอุตสาหกรรมมันสำปะหลังและอุตสาหกรรมต่อเนื่องเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากประเทศไทยผลิตมันสำปะหลังมากเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ที่สุดของโลก อุตสาหกรรมมันสำปะหลังและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจึงถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสำหรับการดำเนินงานโครงการฯ จะจัดให้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และวิธีการประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ ให้แก่บุคลากรของสถานประกอบการอุตสาหกรรม จำนวนไม่น้อยกว่า 100 ราย พร้อมทั้งให้คำปรึกษาเชิงลึกในการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินการยื่นขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์แก่สถานประกอบการอุตสาหกรรมมันสำปะหลังและอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีการส่งออก จำนวนไม่น้อยกว่า 10 ราย โดยผลจากการศึกษาและดำเนินโครงการฯ จะนำมาจัดทำแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมมันสำปะหลัง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเผยแพร่และขยายผลสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่โลจิสติกส์สีเขียวในตลาดการค้าโลกต่อไป” ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์ กพร. กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ / สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย /โทรศัพท์ 0-2345-1013, 1017

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version